การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร 2) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และปัจจัยด้านสมรรถนะการปฏิบัติงานของโครงการชลประทานสกลนคร 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และปัจจัยด้านสมรรถนะการปฏิบัติงาน ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร กลุ่มตัวอย่างได้แก่ บุคลากรโครงการชลประทานสกลนคร จำนวน 268 คน และจะทำการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ 

ผลการวิจัยพบว่า 

1. ผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.51) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านคุณภาพการให้บริการ ( =4.64) รองลงมาคือ ด้านประสิทธิภาพของการปฏิบัติราชการ ( =4.56) ด้านประสิทธิผลตามพันธกิจ ( =4.52) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการพัฒนาองค์การ ( =4.34)

2. ปัจจัยด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรโครงการชลประทานสกลนคร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.50) และปัจจัยด้านสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรโครงการชลประทานสกลนคร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.61)

3. ปัจจัยด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน 3 ด้าน สามารถร่วมกันทำนายผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร ได้ร้อยละ 51.20 (R2Ad =.512) โดยด้านการเจริญเติบโต ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร มากที่สุด (β=.400) รองลงมาคือ ด้านการยอมรับนับถือ (β=.384) และด้านการยอมรับนับถือ (β =.134) ส่วนด้านลักษณะของงาน ด้านความก้าวหน้าในการทำงาน และด้านความรับผิดชอบ ไม่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร

4. ปัจจัยด้านสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรโครงการชลประทานสกลนคร ทั้ง 3 ปัจจัย สามารถร่วมกันทำนายผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร ได้ร้อยละ 14.10 (R2Ad=.141) โดยด้านสมรรถนะหลัก ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการของโครงการชลประทานสกลนคร มากที่สุด (β=.224) รองลงมาคือ ด้านสมรรถนะตามตำแหน่งงาน (β=.151) และสมรรถนะในด้านการจัดการ (β=.158)
 

The purposes of this study included the following: 1) to investigate the level of the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project’s performance, 2) to examine the level of work motivation factors in the performances and competencies of Sakon Nakhon Irrigation Project, and 3) to study the work motivation factors in the performances and competencies that influenced on the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project. The samples consisted of 268 personnel of Sakon Nakhon Irrigation Project. The instrument employed for data collection was a questionnaire and statistics used for data analysis comprised frequency, percentage, mean, standard deviation, and Multiple Linear Regression Analysis. 

The study revealed these results:

1. The achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project’s performance, as a whole, was at the highest level ( =4.51). Contemplating each aspect, it was found that the service quality got the highest mean ( =4.64). The efficiency of their performances contained the second highest mean ( =4.56). The effectiveness of their missions gained the third highest mean ( =4.52) while the organizational development attained the lowest mean ( =4.34).

2. The work motivation factors of the performances of Sakon Nakhon Irrigation Project, as a whole, was at the high level ( =4.50). At the same time, The work motivation factors of the competencies of Sakon Nakhon Irrigation Project, as a whole, was at the highest level  ( =4.61).

3. Regarding the work motivation of the personnel of Sakon Nakhon Irrigation Project, it was found that the success of the performance (MOT2; β=.297),  accountability/responsibility  (MOT4; β=.196), occupational progress  (MOT3; β=.145),  occupational growth (MOT5; β=.123) and acknowledgement and recognition in the workplace  (MOT6; β=.122) had significant influences on the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project at .05 statistical level with .175 coefficient and they could be used to correctly predict the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project 17.50%. 

4. About the competencies of the personnel of Sakon Nakhon Irrigation Project, it was found that the functional/position competencies (PER3; β=.186), core competencies (PER1; β=.165), management competencies (PER2; β=.159) had significant influences on the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project at .05 statistical level with .108 coefficient and they could be used to correctly predict the achievement of Sakon Nakhon Irrigation Project 10.80%.