การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาสำหรับครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดังนี้ 2.1) การเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาระหว่างก่อนและหลังฝึกอบรม 2.2) การศึกษาทักษะการปฏิบัติงานการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา และ 2.3) การศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนต่อหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาการดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม มี 2 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1.1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และ 1.2) การสร้างและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และระยะที่ 2 การประเมินประสิทธิภาพและการปรับปรุงหลักสูตร มี 2 ขั้นตอน ประกอบด้วย 2.1) การทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรม 2.2) การประเมินผลและการปรับปรุงหลักสูตรฝึกอบรม กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนบ้านม่วงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 ใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง จำนวน 30 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

1. หลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาสำหรับครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษามี 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการและเหตุผล   2) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 3) โครงสร้างเนื้อหา 4) กิจกรรมการฝึกอบรม และ 5) การวัดและประเมินผล

2. ประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา สำหรับครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่า 1) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หลังฝึกอบรมสูงกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ทักษะการปฏิบัติงานการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาของครูอยู่ในระดับดีมาก และ 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุด

The purposes of this study were: 1) to develop the training curriculum in STEM education learning management for teachers at an opportunity expansion school under the Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1, and 2) to study the efficiency of the training curriculum in STEM education learning management in the following aspects: 2.1) comparison of knowledge and understanding in STEM education learning management before and after the training, 2.2) study of the skills in STEM education learning management, and 2.3) study of teachers’ satisfactions towards the training curriculum.The conduction of this study was divided into two phases. Phase 1 was the development of the training curriculum. Two steps were identified in this phase, including 1.1) study of fundamental data, principles, theories and related studies and 1.2) development of the training curriculum. Phase 2 was the evaluation and improvement of the training curriculum. This phase comprised of two steps: 2.1) experiment of the curriculum and 2.2) evaluation and improvement of the curriculum. The target group consisted of thirty teachers at Banmuangwittaya School, Kusuman District, Sakon Nakhon province, under the Sakon Nakhon Primary Educational service Area Office 1. These teachers were selected by purposive sampling. The statistics used in data analysis were percentage, mean, standard deviation and t-test.

The findings were:

1. The training curriculum in STEM education learning management  for the teachers in the opportunity expansion school comprised of five components: 1) rationale and background, 2) objectives of the training curriculum, 3) content structure, 4) training activities and 5) measurement and evaluation.

2. The efficiency of the training curriculum in STEM education learning management for teachers in the opportunity expansion school were 1) knowledge and understanding in STEM education learning management of the teachers after the training was higher than before the training with statistical significance at .01 level, 2) skills in practicing STEM education learning management of the teachers were at very good level, and 3) the teachers’ satisfactions towards the training curriculum was at the highest level.