การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา สภาพ ปัญหา และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8 สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริหาร ครู ครูพระ ของกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 217 คน ได้มาโดยใช้  การสุ่มแบบแบ่งชั้นแบบใช้สัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) ผู้บริหาร 40 คน ครู 103 คน ครูพระ 74 รูป เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 3 ด้านคือ ด้านที่ 1 สภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.965  ด้านที่ 2 ปัญหาการบริหารงานวิชาการโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.980   ด้านที่ 3 ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.976  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ t-test, F-test (One – Way ANOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพ และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8  สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามความคิดเห็นของ ผู้บริหาร ครู ครูพระ  อยู่ในระดับมาก ส่วนปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง

2. สภาพ ปัญหา และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8  สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู ครูพระ  ไม่แตกต่างกัน

3. สภาพ และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8  สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยรวมตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู ครูพระ  ที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดแตกต่าง ไม่แตกต่างกัน ส่วนปัญหาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา โดยรวมและรายด้าน ทุกด้านมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยโรงเรียนขนาดเล็กมีความเห็นมากกว่าโรงเรียนขนาดกลาง

4. สภาพ ปัญหาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 8  สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติโดยรวมและรายด้านทุกด้าน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู ครูพระ  ที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่แตกต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  ส่วนประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ไม่แตกต่างกัน

5. การวิจัยครั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางในการยกระดับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนทั้ง 9 ด้านไว้ด้วย

The purposes of this research aimed to examine conditions, problems and effectiveness of school academic affairs administration of Phrapariyattidhamma Schools, General Education Division, Group 8 under the National Office of Buddhism. The samples, obtained through Proportional Stratified Random Sampling technique, were 40 administrators, 103 teachers, and 74 monk teachers, yielding a total of 217 participants in the academic year 2017. The research instrument for data collection was a rating scale questionnaire containing three aspects: conditions, problems, and effectiveness of school academic affairs administration with the reliability values ranging 0.965, 0.980, and 0.976 respectively. The statistics employed were percentage, mean and standard deviation. The hypothesis testing was done through t- test and F - test (One - Way ANOVA).

The findings were as follows:

1. The conditions and effectiveness of school academic affairs administration of Phrapariyattidhamma Schools, General Education Division, Group 8 under the National Office of Buddhism, as perceived by participants were at a high level, whereas the problems were at a moderate level.

2. The conditions, problems and effectiveness of school academic affairs administration, as perceived by participants showed no difference.

3. Conditions and effectiveness of school academic affairs administrations perceived by participants from different school sizes, were not different. The problems were different at a statistical significance of .01 level in overall and each aspect. Participants from small schools perceived the said variables at a higher level than ones from medium schools.

4. The conditions and problems of school academic affairs administration as perceived by participants working in schools from different provinces were different at the.01 level of statistical significance in overall and each aspect, whereas the effectiveness was not different.

5. The guidelines, covered nine aspects for upgrading school academic affairs administration, were proposed.