การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 2) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ 3) เปรียบเทียบทักษะการใช้เทคโนโลยี 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
5) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการใช้เทคโนโลยี และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์แตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนน้ำสวยพิทยาสรรพ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 19 จำนวน 23 คน ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ โดยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาและเทคนิค TGT) 2) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ 3) แบบวัดทักษะการใช้เทคโนโลยี 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบวัดแรงจูงใจไฝ่สัมฤทธิ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที(t–test Dependent Samples) การวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One - way ANOVA)การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหุคูณทางเดียว (One–way MANCOVA) และวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมทางเดียว (One-way ANCOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอน แบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.05/85.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กําหนดไว้

2. ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05

3. ทักษะการใช้เทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) เมื่อได้รับการสอนด้วยชุดฝึกมัลติมีเดียการออกแบบโมเดล 3 มิติ ด้วยวิธีการสอนแบบ Google SketchUp ร่วมกับการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และเทคนิค TGT มีต่อ
ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการใช้เทคโนโลยี และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The purposes of this study included the following: 1) to develop the multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT to gain the established criteria, 2) to compare the students’ creativeness, 3) to compare the students’ skills in using technology, 4) to compare the students’ learning achievements, 5) to compare creativeness, skills in using technology, and learning achievements of Matthayom Suksa 2 students whose achievement motivations differed. The samples consisted of 23 Mathayom Suksa 2 students who were studying in the first semester of 2019 academic year at Namsauypittayasan School under the jurisdiction of the Office of Secondary Educational Service Area 19. They were obtained by cluster random sampling using the classroom as the sampling unit. The instruments were composed of 1) the multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT, 2) the form to examine the students’ creativeness, 3) the form to evaluate the students’ skills in using technology, 4) learning achievement test, and  5) achievement motivation test. The statistics adopted for data analysis consisted of mean, standard deviation, t-test (Dependent Samples), One – way ANOVA, One – way MANCOVA, and One – way ANCOVA.

The study revealed these results:

1. The multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT had their efficiency of 85.05/85.65 which was higher than the established criteria.

2. After Matthayom Suksa 2 students had learnt through the developed multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT, their creativeness was significantly higher than that of before at .05 statistical level.

3. After Matthayom Suksa 2 students had learnt through the developed multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT, their skills in using technology were significantly higher than those of before at .05 statistical level.

4. After Matthayom Suksa 2 students had learnt through the developed multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT, their learning achievement was significantly higher than that of before at .05 statistical level.

6. After Matthayom Suksa 2 students whose achievement motivations differed (high, moderate, and low) had learnt through the developed multimedia packages for designing the 3D model using Google SketchUp, STEM Education, and TGT, their creativeness, skills in using technology, and learning achievements were significantly varied at .05 statistical level.