การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาด้วยชุดกิจกรรมนิทาน เพลงภาษาจีน โดยใช้การสอนแบบ CIPPA Model ร่วมกับ Top–Down Model ให้มีค่าดัชนีประสิทธิผลร้อยละ 50 ขึ้นไป 2) เปรียบเทียบทักษะการฟังของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น ระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน 3) เปรียบเทียบทักษะการพูดของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น และ 5) เปรียบเทียบทักษะการฟัง ทักษะการพูด และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่มีการคิดวิเคราะห์แตกต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) หลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 จำนวน 48 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 ด้วยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) แบบแผนการทดลอง คือ แบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One Group Pretest-Posttest Design) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผล (The Effectiveness Index: E.I.) สถิติทดสอบค่าที (t-test for Dependent Samples) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One–way ANOVA)  และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหูคูณทางเดียว (One–way MANCOVA) หรือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหูคูณทางเดียว (One–way MANOVA)

ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้

1. ชุดกิจกรรมนิทาน เพลงภาษาจีน โดยใช้การสอนแบบ CIPPA Model และ Top–Down Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.60 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 

2. ทักษะการฟังของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ทักษะการพูดของนักเรียนที่เรียนโดยใช้โดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้โดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ทักษะการฟัง ทักษะการพูด และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีการคิดวิเคราะห์แตกต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) หลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 
 

The purposes of this study were: 1) to develop an instructional activities package of Chinese fables and songs using CIPPA model and top–down model approaches to meet an effectiveness index of 50 percent or more; 2) to compare students’ listening skills before and after learning through the developed instructional activities package, 3) to compare students’ speaking skills before and after learning through the developed instructional activities package; 4) to compare students’ learning achievement before and after learning through the developed instructional activities package; and 5) to compare listening skills, speaking skills, and learning achievement of students with critical thinking abilities at high, medium, and low categories after learning through the developed instructional activities package. The samples, obtained through cluster random sampling, were 48 students from Mathayomsuksa 5/6 of Thatnaraiwittaya School in the academic year 2018 under the Secondary Educational Service Area Office 23. The research was performed by the one group pretest-posttest design. The statistics for data analysis were standard deviation, effectiveness index, t-test for Dependent Samples, One-Way ANOVA and One-Way MANCOVA or One-Way MANOVA. 

The findings of this study were as follows:

1) The instructional activities package of Chinese fables and songs based on CIPPA model and top–down model approaches obtained the effectiveness index of 0.60 which was higher than the standard criterion set.

2) The students’ listening skills after the intervention were higher than those of before the intervention at the .05 level of significance.  

3) The students’ speaking skills after the intervention were higher than those of before the intervention at the .05 level of significance.

4) The learning achievement of the students after the intervention was higher than that of before the intervention at the .05 level of significance.  

5)  The listening skills, speaking skills, and learning achievement of students with critical thinking abilities at high, medium, and low categories after the intervention showed significant differences at the .05 level.