การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านการอยู่อย่างพอเพียง 2) ศึกษาประสิทธิภาพหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียงตามเกณฑ์ 80/80 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การใช้หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง 4) ศึกษาทักษะการปฏิบัติหลังใช้หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง และ 5) ศึกษาความพึงพอใจต่อหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มเป้าหมายได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนาเดื่อพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) หลักสูตรฝึกอบรม มีดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.0 ทุกข้อ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) แบบทดสอบความรู้มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.63 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.60 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่ากับ 0.80 และ 3) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติมีดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.0 ทุกข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจมีดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.0 ทุกข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

1. หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2) เนื้อหาของหลักสูตร 3) วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และ 4) การประเมินผล

2. หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านการอยู่อย่างพอเพียง มีประสิทธิภาพ 88.75/89.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. ผลสัมฤทธิ์หลังการฝึกอบรมด้วยหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง สูงกว่าก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ทักษะการปฏิบัติหลังใช้หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด

5. ความพึงพอใจต่อหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการอยู่อย่างพอเพียง อยู่ในระดับมากที่สุด
 

The purposes of this research were to 1) development of training curriculum for enhancing desirable characteristics in sufficiency living, 2) study the efficiency of training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living in accordance with the criteria 80/80, 3) compare the achievement of the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living, 4) study practical skills after using the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living, and 5) study the students’ satisfactions towards the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living. The research samples were 33 students who were studying at Mathayomsuksa 4 in Naduapittayakom School under the Secondary Educational Service Area Office 22. The research instruments were a training curriculum with the IOC at 1.0 for all items, the appropriateness was at the highest level, a test with item difficulty at from 0.40 to 0.63 discrimination from 0.33 to 0.60, and reliability at 0.80, and 3) practical skill evaluation form with the IOC index at 1.0 for all items. Percentage, mean, standard deviation and t-test were used for data analysis.    

The research findings were:

1. The training curriculum for enhancing desirable characteristics in sufficiency living were: 1) course objectives, 2) content, 3) teaching and learning methods, and 4) evaluation.

2. The training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living provided the efficiency of 88.75 / 89.17, which was higher than the set criteria 80/80.

3. The students’ learning achievement after using the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living was higher than before training with statistically significant at .01.

4. The practical skills after using the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living both in overall and each aspect was at the highest level.

5. The students’ satisfactions on the training curriculum for enhancing desirable characteristic in sufficiency living was at the highest level.