การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเพื่อเปรียบเทียบภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครพนม ประจำปีการศึกษา 2562 จำนวน 372 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) จำแนกเป็น ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 122 คน และครูผู้สอน จำนวน 250 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับเกี่ยวกับภาวะผู้นำทางวิชาการ คือ ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.45 – 0.84 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.983 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ t-test, F-test (One - way ANOVA). 

ผลการวิจับพบว่า 

1. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยรวม อยู่ในระดับมาก 

2. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนมตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพ โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามที่มีประสบการณ์ทำงานในการทำงานต่างกัน โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม จำแนกตามที่ปฏิบัติงานอยู่ในขนาดของโรงเรียนต่างกัน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน

5. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม จำแนกตามลักษณะโรงเรียนที่เปิดสอนต่างกัน โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

6. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม จำแนกตามโรงเรียนสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนครพนม โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

7. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ควรได้รับการพัฒนา จำนวน 3 ด้าน  ได้แก่ ด้านการพัฒนาหลักสูตร  โดยให้ผู้บริหารสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญของหลักสูตร ปรับวิธิคิดใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน , ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน  โดยให้ผู้บริหารนิเทศกำกับติดตามและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของครูอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง  ด้านการพัฒนาคุณภาพครู โดยให้ผู้บริหารส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการอบรมสัมมนาและศึกษาต่อ  พัฒนาตนเองตามจรรยาบรรณวิชาชีพ นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาครูนิเทศกำกับติดตามและตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน มีการให้รางวัลและแรงจูงใจสำหรับครู

The purposes of this research aimed to examine A Study of Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province The sample, obtained through proportional stratified random sampling, were 122 directors, 250 teachers, yielding a total of 372 from under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province in the academic year 2019. The research instruments for data collection were the rating scale and the questionnaire with 1-5 Likert’s scale about academic leadership: Academic Leadership of School Administrators with the reliability of. 0.983. The statistics for data analysis were percentage, mean and standard deviation. The hypothesis testing was done through  t-test and F-test (One – Way ANOVA). 

The findings were as follows:

1. Academic Leadership of School Administrators, as perceived by participants were at a high level in overall.

2. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province as perceived by participants from different status, showed statistical significance at .01 level.

3. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province as perceived by participants from different working experiences, showed statistical significance at .01 level.

4. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province. as perceived by participants from different school sizes, aspect were not different.

5. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province. as perceived by participants from different type of school, showed statistical significance at .05 level.

6. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province. as perceived by participants from under Office of Basic Education, showed statistical significance at .01 level.

7. Academic Leadership of School Administrators under Office of Basic Education in Nakhon Phanom Province ought to be improved in three aspects: Curriculum development; that was, raising awareness about the importance of curriculum to administrators and improving thinking methods to conform with the current situation, The development of teaching; that was, among administrators needed to monitor and evaluate the teaching management of teachers frequently, Teacher quality development; that was, the administrators had to support and promote among teachers to join training course and studying in higher level, improving themselves through the Code of Ethics of Teaching Profession, using technology to monitor and evaluate teachers performance including to reward and encourage teachers motivation.