การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารโรงเรียน ครูพระสงฆ์ และครูฆราวาส ในโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต ประจำปีการศึกษา 2562 จำนวน 95 รูป/คน ได้มาโดยการสุ่มแบบใช้สัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 11 รูป ครูพระสงฆ์ จำนวน 37 รูป และครูฆราวาส จำนวน 47 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณค่า คือ ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ มีค่าความเชื่อมั่น .985 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ t-test, และ One-Way ANOVA

ผลการวิจัย พบว่า

1. ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูพระสงฆ์ และครูฆราวาส โดยรวม อยู่ในระดับมาก

2. ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูพระสงฆ์ และครูฆราวาส ที่มีสภาพการดำรงตำแหน่งแตกต่างกัน โดยรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนรายด้าน พบว่า ด้านภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ มีความเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05       ด้านภาวะผู้นำทางวิชาการ และด้านภาวะผู้นำด้านการเรียนการสอนมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยครูฆราวาสมีความคิดเห็น มากกว่า ครูพระสงฆ์

3. ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูพระสงฆ์ และครูฆราวาส ที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน

4. ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์ในแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูพระสงฆ์ และครูฆราวาส ที่มีประสบการณ์ในการทำงานแตกต่างกัน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน

5. ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนสงฆ์แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ควรได้รับการพัฒนา จำนวน 3 ด้าน ได้แก่ ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ภาวะผู้นำทางวิชาการ และผู้นำด้านการเรียนการสอ

The purpose of this research was to examine administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao People’s Democratic Republic (Lao PDR). The samples, obtained through proportional stratified random sampling, consisted of 11 Buddhist administrator monks, and 37 Buddhist monk teachers, and 47 non-monk teachers, yielding a total of 95 persons from Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR in the academic year 2019. The research instrument for data collection was a rating scale questionnaire containing administrators’ leadership of Buddhist Monk Schools with the reliability of .985. The statistics for data analysis were percentage, mean, and standard deviation. The hypothesis testing was done through t-test, and One-Way ANOVA.

The findings were as follows:

1. Administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR, as perceived by participants as a whole was at a high level.

2. Administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR, as perceived by participants with different positions, as a whole was not different. As for individual aspect, strategic leadership was perceived with the statistically significant difference at the .05 level. In terms of academic leadership and instructional leadership, there were different with the statistically significant difference at the .01 level. The non-monk teachers expressed opinions concerning the said variables more than the monk teachers.

3. Administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR, as perceived by participants with different education level as a whole and individual aspect was not different.

4. Administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR, as perceived by participants with different work experiences as a whole and individual aspect was not different.

5. Administrators’ leadership at Buddhist Monk Schools in Savannakhet province in Lao PDR involved three aspects: Strategic leadership, Academic leadership, and Instructional leadership.