สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการจำเป็นในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ 2) เพื่อสร้างกลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ และ 3) เพื่อประเมินกลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงนโยบาย (Policy Research) กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารและครูผู้สอนในโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต จำนวน 81 คน/รูป จำแนกเป็นผู้บริหาร จำนวน 10 คน/รูป และครูผู้สอน จำนวน 71 คน/รูป โดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่ และมอร์แกน (Krejci and Morgan) และใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) ดำเนินการวิจัย 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยการวิจัยเชิงสำรวจกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูผู้สอนโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ จำนวน 81 รูป/คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน จากการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาพบว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีความสอดคล้องรายข้ออยู่ระหว่าง .80 - 1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 การยกร่างกลยุทธ์ ประกอบด้วย การศึกษาเอกสารเกี่ยวกับการทำกลยุทธ์ ระยะที่ 3 ยืนยันและสรุปผลประเมินร่างกลยุทธ์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 ท่าน และจัดประชาพิจารณ์ร่างกลยุทธ์ โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 50 ท่าน เพื่อประเมินร่างกลยุทธ์ การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และเพื่อยืนยันความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์
ผลการศึกษาพบว่า
1. สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว พบว่า สภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x = 2.97) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x = 3.97) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ย โดยใช้เทคนิคประเมินความต้องการจำเป็น PNImodified ดังนี้ 1) กลยุทธ์การเรียนรู้ร่วมกันและการประยุกต์ใช้ความรู้ 2) กลยุทธ์ภาวะผู้นำแบบสนับสนุน และ 3) กลยุทธ์การมีค่านิยมและวิสัยทัศน์ร่วม และ 4) กลยุทธ์การทำงานเป็นทีมแบบรวมพลังร่วมมือ
2. กลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีองค์ประกอบกลยุทธ์ ประกอบด้วย 1) การกำหนดปรัชญาวิสัยทัศน์และพันธกิจองค์กร 2) การกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และวัตถุประสงค์ 3) การวิเคราะห์สภาพปัญหาความต้องการขององค์กร 4) การกำหนดทางเลือก 5) การกำหนดกลยุทธ์ และ 6) การนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ โดยกลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 14 กลยุทธ์ย่อย 84 แนวทางการดำเนินงาน แยกรายละเอียดตามกลยุทธ์หลัก ดังนี้ 1) กลยุทธ์การเรียนรู้ร่วมกันและการประยุกต์ใช้ความรู้ ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ย่อย 22 แนวทางการดำเนินงาน 2) ด้านการมีค่านิยมและวิสัยทัศน์ร่วม ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ย่อย 22 แนวทางการดำเนินงาน 3) ด้านการทำงานเป็นทีมแบบร่วมมือเรียนรู้ ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ย่อย 15 แนวทางการดำเนินงาน และ 4) ด้านการมีภาวะผู้นำแบบสนับสนุนและการจัดการความรู้ ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ย่อย 25 แนวทางการดำเนินงาน และการประเมินกลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนสามัญศึกษาสงฆ์ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยผู้เชี่ยวชาญและการจัดประชาพิจารณ์ ในแต่ละด้าน พบว่า ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน
The purposes of this research were 1) to examine the current and desired conditions in the administration of Sangha General Education Schools, 2) to formulate the strategies for administrative participation in Sangha General Education Schools, and 3) to assess strategies for administrative participation in Sangha General Education Schools in Savannakhet, Lao People's Democratic Republic (Lao PDR). This research employed a policy research approach with a sample group of 81 participants, comprising ten school administrators and 71 teachers from General Education Sangha Schools in Savannakhet, Lao PDR, using the Krejci and Morgan table and purposive random sampling. The research process was divided into three phases: Phase I involved examining basic information on administration in General Education Sangha Schools in Savannakhet, Lao PDR. The survey participants involved 81 administrators and teachers in General Education Sangha Schools. The research instrument was a set of questionnaires validated its content validity by five experts with the Index of Item Objective Congruence ranging from .80 to 1.00. Statistics for data analysis were frequency, percentage, mean, and standard deviation. Phase II entailed drafting the strategies through document inquiries on the pertinent strategic formulation. Phase III was related to confirming and summarizing the drafted strategies through ten experts’ reviews. A public hearing with 50 experts was also conducted to assess and confirm the appropriateness, possibilities, and usefulness of the drafted strategies.
The findings revealed that:
1. The current and desired conditions of administrative participation in Sangha General Education Schools in Savannakhet, Lao PDR revealed that the current situation of administrative participation was at a moderate level overall (x = 2.97), whereas the desired conditions were overall at a high level (x = 3.97). When considering each aspect, all aspects were ranked at a high level and sorted in descending order of mean score using a modified priority need index technique (PNImodified) as follows: 1) collaborative learning and knowledge implementation strategy, 2) supportive leadership strategy, 3) shared values and vision strategy, and 4) collaborative teamwork strategy.
2. The strategies for administrative participation in Sangha General Education Schools in Savannakhet, Lao PDR consisted of 1) Determining organizational philosophy, visions, and missions; 2) Creating policies, goals, and objectives; 3) Analyzing problems and needs of organizations; 4) Developing alternatives; 5) Creating strategies, and 6) Implementing strategies. The strategies for administrative participation in Sangha General Education Schools in Savannakhet, Lao PDR covered four main strategies, 14 sub-strategies with 84 approaches, which could be described as follows: 1) collaborative learning and knowledge implementation strategy comprising three sub-strategies with 22 approaches, 2) shared values and vision strategy comprising four sub-strategies with 22 approaches, 3) collaborative teamwork strategy comprising three sub-strategies with 15 approaches, 4) supportive leadership strategy comprising four sub-strategies with 25 approaches. Following the expert assessment and the public hearing in each aspect, the proposed strategies in terms of appropriateness, possibilities, and usefulness were overall at a high level in all aspects.
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | fulltext | 6,268.50 KB |