ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (E-Thesis) SNRU

สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ชื่อวิทยานิพนธ์
การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง สารละลาย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา
Development of Creative Thinking of Mathayomsuksa 4 Students on the Topic of Solution Using STEAM Education
ผู้จัดทำ
พงศกร พลสุโพธิ์ รหัส 62421238210 ระดับ ป.โท ภาคพิเศษ
หลักสูตร
ครุศาสตรมหาบัณฑิต (ค.ม.) สาขาวิชา การสอนวิทยาศาสตร์
ปี พ.ศ.
2564
ที่ปรึกษา
ดร.อรุณรัตน์ คำแหงพล , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. หรรษกร วรรธนะสาร
บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างแผนการจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา เรื่อง สารละลาย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จำนวน 40 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา 2) แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าทีแบบกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน 

ผลการวิจัยพบว่า 

1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา เรื่อง สารละลาย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.98/80.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 

2. ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 

4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบสตีมศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุด
 

Abstract

The purposes of this research were to 1) construct lesson plans based on STEAM education on the topic of Solution to meet the efficiency criteria of 80/80, 2) compare students’ creative thinking before and after the intervention, 3) compare students’ learning achievement before and after the intervention, 4) examine the satisfaction of students toward the learning activity management based on STEAM education. The sample, obtained through cluster random sampling, consisted of 40 students from Mathayomsuksa 4/1 at Thatnaraiwittaya School, Mueang District, Sakon Nakhon province, in the second semester of the academic year 2020. The instruments included 1) lesson plans based on STEAM education, 2) a creative thinking test, 3) a learning achievement test and 4) a satisfaction questionnaire. The statistics for data collection were percentage, mean, standard deviation, and t-test for Dependent Samples. 

The results were as follows: 

1. The efficiency of lesson plans based on STEAM Education on the topic of Solution was 80.98/80.11, which was higher than the defined criteria.

2. The creative thinking of students after the intervention was higher than that of before the intervention at the 0.1 level of significance. 

3. The learning achievement of students after the intervention was higher than that of before the intervention at the 0.1 level of significance.

4. The satisfaction of students toward the learning activity management based on STEAM education was at the highest level.
 

คำสำคัญ
ความคิดสร้างสรรค์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สตีมศึกษา สารละลาย
Keywords
Creative Thinking, Learning Achievement, STEAM Education, Solution
ไฟล์วิทยานิพนธ์
ลำดับที่ ดาวน์โหลดไฟล์ ขนาดไฟล์
1 fulltext 7,372.54 KB
วันที่นำเข้าข้อมูล
2 มีนาคม 2566 - 13:47:04
View 442 ครั้ง


^