การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาร่วมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง วาล์วในระบบนิวแมติกส์ ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความ สามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจอุดรธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 20 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาร่วมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าทีแบบกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน

ผลการวิจัยพบว่า 

1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาร่วมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง วาล์วในระบบนิวแมติกส์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.15/81.25 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 

2. ความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 

3. นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาร่วมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.67)
 

The purposes of this research were to 1) construct and develop lesson plans based on STEM education combined with the sufficiency economy philosophy on the topic of Valve in a Pneumatics System for students at the high vocational certificate level to meet the efficiency of 80/80, 2) compare students’ problem-solving ability and learning achievement before and after the intervention, and 3) examine students’ satisfaction toward the developed learning management. The sample, selected through cluster random sampling, consisted of 20 second-year students at the high vocational certificate level of Technology and Business Administration Udonthani College, Mueang district, Udon Thani province, in the second semester of the academic year 2020. The research instruments included 1) lesson plans based on STEM education combined with the sufficiency economy philosophy, 2) a problem-solving ability test, 3) a learning achievement test and 4) a satisfaction questionnaire. The statistics comprised percentage, mean, standard deviation, and t-test for Dependent Samples. 

The research findings were as follows: 

1. The efficiency of the lesson plans based on STEM education combined with the sufficiency economy philosophy on the topic of Valves in a Pneumatics system was 80.15/81.25, which met the defined criteria of 80/80. 

2. The students’ problem-solving ability and learning achievement after the intervention were higher than those before at the .01. level of significance. 

3. The satisfaction of students toward the developed learning management was at the highest level ( x=4.67).