สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษา เปรียบเทียบ ศึกษาความสัมพันธ์ อำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของครูที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย จำนวน 282 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร ปีการศึกษา 2565 จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 60 คน และครูผู้สอน จำนวน 222 คน โดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยแบบสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของครู มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 และแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 และแบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (Independent Samples t -test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson's product - moment correlation coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนโดยรวม อยู่ในระดับมาก
2. ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียนโดยรวม อยู่ในระดับมาก
3. การปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่งและขนาดโรงเรียนที่ต่างกัน แตกต่างกัน จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่ต่างกัน ไม่แตกต่างกัน
4. ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่งโดยรวม ไม่แตกต่างกัน จำแนกตามขนาดโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวม แตกต่างกัน
5. การปฏิบัติงานของครูโดยรวม มีความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียนโดยรวม อยู่ในระดับสูง (rxy=0.745)
6. การปฏิบัติงานของครูที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียนได้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ ด้านการจัดการเรียนรู้ (X2) และด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน (X3) โดยอำนาจพยากรณ์
ได้ร้อยละ 60.10 และมีความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ เท่ากับ ± 0.34031
7. แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของครูที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการยุคดิจิทัลในโรงเรียน ที่ควรได้รับการพัฒนา มี 2 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการจัดการเรียนรู้ ผู้บริหารควรสนับสนุนให้ครูใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ที่มีความหมายและน่าสนใจ ครูควรมีการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีที่หลากหลายเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ และควรจัดหาสื่อการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม และ 2) ด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน ผู้บริหารควรมีการกระจายอำนาจในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นอิสระและคล่องตัว โดยการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ครูควรมีการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น ควรส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน และควรจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อความต้องการของผู้เรียน ชุมชน และท้องถิ่น
The purposes of this research were to examine, compare, determine the relationship, identify the predictive power, and establish guidelines for developing teacher performance affecting the effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools under the Secondary Educational Service Area Office Mukdahan, as perceived by administrators and teachers with different positions, school sizes, and work experience. The sample, obtained through multi-stage random sampling, comprised 282 participants, including 60 school administrators and 222 teachers working under the Secondary Educational Service Area Office Mukdahan, in the 2022 academic year. The data collection tools were two sets of 5-point scale questionnaires on teacher performance affecting, and the effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools with the reliability of 0.88 and 0.96, respectively, and structured interview forms. Statistics for data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, Independent Samples t-test, one-way analysis of variance (ANOVA), Pearson’s product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis.
The findings were as follows:
1. The teacher performance in schools was overall at a high level.
2. The effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools was overall at a high level.
3. The teacher performance, as perceived by participants with different positions and school sizes, showed a difference, but in terms of work experience, there was no difference.
4. The effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools, as perceived by participants with different positions, showed no difference overall, but in terms of school sizes, and work experience, there was a significant difference.
5. The teacher performance and the effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools had a positive relationship at the .01 level of significance with a high level (r=0.745).
6. The two aspects of teacher performance were able to predict the effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools at the .01 level of significance, comprising: Learning Management (x2) and Relations with Parents and Communities (x1), with the predictive power of 60.10 percent and the standard error estimate of ±0.34031.
7. Guidelines for developing teacher performance affecting the effectiveness of academic affairs administration in the digital era in schools involved two aspects needing improvement: 1) Learning Management. Administrators should promote the integration of technology in teaching practices to facilitate meaningful and engaging learning experiences. Teachers, in turn, should utilize diverse instructional methods to foster the potential development of learners and provide relevant learning materials and leverage appropriate technology in learning management; 2) Relations with Parents and Communities. Administrators should embrace decentralization and involve all stakeholders’ participation to enable educational institutions to operate with freedom, flexibility, and efficiency. This involvement includes teachers developing localized curriculums and fostering engagement in the learning management process both at home and in schools, and supporting the learning management process that caters to the needs of learners, communities, and localities.
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | fulltext | 9,059.05 KB |