การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก หน่วย งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาและเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบัวขาว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 40 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน   

          ผลการวิจัยพบว่า

          1. แผนการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.87/80.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

          2. การเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มทำให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยเหลือกัน และส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ ซึ่งก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.83 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 81.25 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

          3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

          4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เทคนิค STAD ร่วมกับผังกราฟิก อยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.65, S.D. = 0.49)

         The purposes of this research were to 1) develop and determine the efficiency of lesson plans on the Work and Energy Unit based on the STAD technique with graphic organizers for Mathayomsuksa 4 students to meet the defined criteria of 80/80, 2) examine and compare students’ analytical thinking before and after the intervention, 3) compare students’ learning achievement before and after the intervention, and 4) examine students’ satisfaction toward the developed learning management based on the STAD technique with graphic organizers. The sample, obtained through cluster random sampling, included 40 students from Mathayomsuksa 4 at Buakhao School under the Kalasin Provincial Administrative Organization in the second semester of the academic year 2022. The research instruments were the lesson plans based on the STAD technique with graphic organizers, an analytical thinking assessment test, a learning achievement test, and a satisfaction questionnaire. The statistics for data analysis were percentage, mean, standard deviation, and t-test for Dependent Samples.

        The research findings were as follows:

          1. The lesson plans using the STAD technique with graphic organizers of Mathayomsuksa 4 students achieved an efficiency of 80.87/80.92, which was higher than the set criteria of 80/80.         

          2. Utilizing the STAD technique with graphic organizers facilitated the students to actively participate in collaborative activities, promoting knowledge sharing, mutual support, and enhancing analytical thinking. The pre-and post-intervention percentages representing analytical thinking were 29.83% and 81.25%, respectively. Upon comparison of analytical thinking, the students’ mean score after the intervention was higher than that of their pre-intervention mean at the .01 level of significance.

         3. The students’ learning achievement after the intervention was higher than that before the intervention at the .01 level of significance.

         4. The students’ satisfaction with the learning management based on the STAD technique with graphic organizers was at the highest level (X= 4.65, S.D. = 0.49).