การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ ศึกษาความต้องการจำเป็นและหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 การวิจัยมี 2 ขั้นตอน ตอนที่ 1 ศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 317 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยโรงเรียน จำนวน 79 คน และครูจำนวน 238 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan และใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยด้านสภาพปัจจุบัน มีค่าอำนาจจำแนก .43 – .88 ค่าความเชื่อมั่น .96 และด้านสภาพที่พึงประสงค์ มีค่าอำนาจจำแนก .45 – .79 ค่าความเชื่อมั่น .97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ตอนที่ 2 แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนโดยไปศึกษาโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศทางด้านภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์มาบริหารจัดการสถานศึกษา จำนวน 3 โรงเรียน โดยการศึกษาเอกสาร สังเกตการณ์ และสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา

            ผลการวิจัยพบว่า

                            1. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนสภาพปัจจุบัน อยู่ในระดับมาก ( = 4.34) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70)

             2. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนสภาพปัจจุบัน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวมและรายด้าน ไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนการจำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และในส่วนการจำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน

            3. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนสภาพที่พึงประสงค์ จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน ส่วนการจำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนและในส่วนการจำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียน

            4. ดัชนีความต้องการจำเป็นของภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนรายด้าน 3 ลำดับแรก ประกอบด้วย 1) ด้านการมีความยึดหยุ่น (PNI _modified =.108) 2) ด้านการคำนึงถึงปัจเจกบุคคล (PNI _modified = .087) และ 3) ด้านการมีความคิดสร้างสรรค์(PNI _modified = .085)

            5. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านการมีความยึดหยุ่น ควรหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหลากหลายวิธี มีการคิดนอกกรอบในการบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ 2) ด้านการคำนึงถึงปัจเจกบุคคลควรมีสามารถเข้าใจและรู้ถึงความสามารถพิเศษ บริบทบุคลากรแต่ละคน และ 3) ด้านการมีความคิดสร้างสรรค์ควรมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และความคิดเชิงบวก นำมาใช้ในการบริหารงานสถานศึกษา

          The purpose of this research was to study, compare, the present and desirable conditions. Study the needs and find ways to develop creative leadership of school directors. under the Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2. The research consisted of 2 steps. Part 1 looked at the need for creative leadership development of school directors. The sample used in the research were school directors and teachers. In the jurisdiction of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office, Region 2, there were 317 students in the academic year 2021, consisting of 79 school administrators and 238 teachers. The sample size was determined according to the table of Krejcie and Morgan and using stratified random sampling. The research tools consisted of a rating scale questionnaire. There was a classification power of .43 – .88, a confidence value of .96 and a desirable condition. Has a classification power of .45 –. 79 confidence value .97 Statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation. and the necessary needs index, part 2, a guideline for the development of creative leadership of school directors. By going to study schools with excellent practices in creative leadership to manage educational institutions in the amount of 3 schools by studying documents, observations and interviews to analyze data. by content analysis.             

            The results of the research were as follows:

                 1. The creative leadership of the school director's present condition was at a high level (x = 4.34). was at the highest level (x = 4.70).

        2. The creative leadership of the school director's current condition classified by position position. overall and side no difference The classification by school size as a whole was significantly different at the .01 level and in the classification by work experience. overall and side no difference

        3. Creative leadership of school directors desirable condition Classified by working experience overall and side no difference The overall position classification was significantly different at the .01 level. and in the classification by school size overall and side There were statistically significant differences at the .01 level and the creative leadership of school principals.

        4. The index of needs for creative leadership of school principals in the first 3 aspects consisted of 1) having flexibility (PNI modified = .108), 2) individuality (PNI modified = .087), and 3) creativity (PNI modified = .085).

        5. Guidelines for the development of creative leadership of school directors in 3 aspects, consisting of 1) flexibility should find a way to solve a variety of problems. Have out-of-the-box thinking in managing various problems. and 3) creativity should have innovation and positive thinking. used in the administration of educational institutions