การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์ หาอำนาจพยากรณ์ของภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานวิชาการ และครูผู้สอน ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 332 คน โดยใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น จำแนกเป็น ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 75 คน หัวหน้างานวิชาการ จำนวน 65 คน และครูผู้สอน จำนวน 192 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 2 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.891 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .326-.857 ด้านที่ 2 ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.821 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.324-0.892 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ One-Way ANOVA ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน

             ผลการวิจัยพบว่า

                 1. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก

                 2. ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก

                 3. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง พบว่า โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่จำแนกตามเขตที่ตั้งของโรงเรียน และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวม ไม่แตกต่างกัน

                 4. ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง และเขตที่ตั้งของโรงเรียน พบว่า โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และจำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกัน

                 5. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาและประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน มีความสัมพันธ์กันทางบวก ในระดับสูงมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

                 6. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา มีจำนวน 3 ด้าน ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น และการมีความรอบรู้ในงานวิชาการ โดยมีอำนาจพยากรณ์ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนได้ร้อยละ 70.10

                 7. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาและประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 3 ด้าน ประกอบด้วย การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น และการมีความรอบรู้ในงานวิชาการ

The purposes of this research were to examine, compare, identify the relationship, and determine the predictive power of school administrators' academic leadership that affected the effectiveness of teachers’ learning management in educational opportunity expansion schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1. The sample group, obtained through multi-stage random sampling, consisted of 75 school administrators, 65 heads of academic affairs, and 192 teachers working in schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1 in the academic year 2022, yielding a total of 332 participants. The tool for data collection comprised a 2-aspect rating scale questionnaire on school administrators’ academic leadership and the effectiveness of teachers’ learning management with the reliability of 0.891 and 0.821, and the discriminative power ranging from .326 to .857, and from 0.324 to 0.892, respectively. The statistics for data analysis were percentage, means, and standard deviation. Hypotheses were tested using t-test analysis, One-Way ANOVA, Pearson's product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis.

             The research results were as follows:

                 1. The academic leadership of school administrators was overall at a high level.

                 2. The effectiveness of learning management of teachers was overall at a high level.

                 3. The academic leadership of school administrators, classified by positions, showed an overall difference at the 0.01 level of significance, whereas in terms of school location and work experience, overall, there was no difference.

                 4. The effectiveness of teachers’ learning management, classified by positions and school location was overall different at the .01 level of significance, whereas in terms of work experience, overall, there was no difference.

                 5. The academic leadership of school administrators and the effectiveness of teachers’ learning management were positively correlated at the .01 level of significance.

                 6. The academic leadership of school administrators could predict the effectiveness of teachers’ learning management at the .01 level of significance, covering three aspects, namely creating a conducive learning atmosphere, developing school and local curriculums, and attaining mastery of academic affairs, with the predictive power at 70.10 percent.

                 7. The guidelines for developing the academic leadership among school administrators and the effectiveness of learning management of teachers in educational opportunity expansion schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1 comprised three aspects: creating a conducive learning atmosphere, developing school and local curriculums, and attaining mastery of academic affairs.