การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความมีวินัยในตนเอง 3) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหา 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) เปรียบเทียบความมีวินัยในตนเอง ความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา จำแนกตามระดับความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนกลุ่มสูง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มต่ำ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนชุมชนบ้านไชยบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา จำนวน 4 ชุด 2) แบบวัดความมีวินัยในตนเอง 3) แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที (t–test for Dependent Samples) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One–Way ANOVA) การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหุคูณ (One–Way MANCOVA) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมทางเดียว (One–Way ANCOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เท่ากับ 85.53/83.3 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2. ความมีวินัยในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. นักเรียนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) หลังเรียนด้วยชุดการสอนแบบสืบเสาะร่วมกับการเรียนแบบไตรสิกขา มีความมีวินัยในตนเอง ความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ปรากฏผลดังนี้

5.1 นักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์สูง มีความมีวินัยในตนเอง สูงกว่านักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์ปานกลาง และต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5.2 นักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์สูง มีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์ปานกลาง และ ต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5.3 นักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์สูง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์ปานกลาง และต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ

The purposes of this study included the following: 1) to develop the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students to contain the efficiency of 80/80, 2) to compare the students’ self-discipline, 3) to compare the students’ problem solving abilities, 4) to compare the students’ learning achievements, and 5) to compare the self-discipline, problem solving abilities, and mathematics learning achievements of the students whose emotional intelligences differed (high, moderate, and low) before and after learning through the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique. The subjects were 25 Prathom Suksa 6 students who were studying in 2014 academic year at Chumchon Ban Chaiburi School under the jurisdiction of Nakohn Phanom Primary Education Service Area 2. They were obtained by cluster random sampling. The instruments consisted of 4 instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique, 2) the form to examine the students’ self-discipline, 3) the form to evaluate the students’ problem solving abilities, 4) learning achievement test, and 5) the emotional intelligence test of the Department of Mental Health, Ministry of Public Health. The statistics employed for data analysis incorporated percentage, mean, standard deviation, t-test (Dependent Samples), One-way ANOVA, One-way MANCOVA, and One-way ANCOVA.

The study revealed these results:

1. The developed instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students contained the efficiency of 85.53/83.3 which was higher than the set criteria of 80/80.

2. After the students had learnt through the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students, their self-discipline was significantly higher than that of before at .05 statistical level.

3. After the students had learnt through the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students, their problem solving abilities were significantly higher than those of before at .05 statistical level.

4. After the students had learnt through the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students, their learning achievements were significantly higher than those of before at .05 statistical level.

5. After the students whose emotional intelligences differed had learnt through the instructional packages based on Inquiry Approach and Trisikkha learning technique for Prathom Suksa 6 students, their self-discipline, problem solving abilities, and mathematics learning achievements were significantly different at .05 statistical level. The students whose emotional intelligences were high, had higher self-discipline, problem solving abilities, and mathematics learning achievements than those whose emotional intelligences were moderate and low. And the students whose emotional intelligences were moderate, had higher self-discipline, problem solving abilities and mathematics learning achievements than those whose emotional intelligences were low.