การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด เรื่อง วัสดุในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด เรื่อง วัสดุในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด และ 4) ศึกษาจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 5 โรงเรียนบ้านนาหว้า ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2561 อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 36 คน ซึ่งมาจากเทคนิค การสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินจิตวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1) แผนการจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด เรื่อง วัสดุในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ78.41/76.34 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้

2) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01

3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01

4) จิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โมเดลซิปปาร่วมกับแผนผังความคิด อยู่ในระดับมาก

The purposes of this research were to: 1) develop lesson plans based on CIPPA model with mind mapping on Materials in Everyday Life for Prathomsuksa 5 students to meet the efficiency of 75/75, 2) compare science process skills of Prathomsuksa 5 students both before and after the intervention, 3) compare learning achievement of Prathomsuksa 5 students both before and after the intervention, and 4) examine scientific mind of Prathomsuksa 5 students after learning through the developed lesson plans. The sample, selected by the cluster random sampling technique, was a class of 36 Prathomsuksa 5 students at Ban Na Wa School under the Office of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area 2, Amphoe Na Wa, Nakhon Phanom province, in the first semester of academic year 2018. The instruments for data collection included lesson plans based on CIPPA model with mind mapping, an evaluation form of science process skills, a learning achievement test, and an assessment form of scientific mind. The data were analyzed by using percentage, mean, standard deviation, and t-test (Dependent Samples).

The findings were as follows.

1) The developed lesson plans based on CIPPA model with mind mapping on Materials in Everyday Life for Prathomsuksa 5 students had the efficiency of 78.41/76.34, which was higher than the expected criterion of 75/75.

2) The science process skills of Prathomsuksa 5 students after learning through the developed lesson plans were higher than before learning at the statistical significance level of .01.

3) The learning achievement of Prathomsuksa 5 students after learning through the developed lesson plans were higher than before learning at the statistical significance level of .01.

4) The scientific mind of Prathomsuksa 5 students after learning through the developed lesson plans were at a high level.