การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบ MIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) ของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ 3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังได้รับได้รับการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบ MIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 5) เปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) เมื่อได้รับได้รับการสอนโดยใช้ ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบMIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 22 คน โรงเรียนบ้านคำข่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย1) ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบ MIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) 2) แบบวัดการคิดวิเคราะห์ 3) แบบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ และ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิภาพ E₁/E₂ สถิติทดสอบค่าที (t–test for Dependent Samples) การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณร่วมทางเดียว  (One–way MANCOVA) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมทางเดียว (One–way ANCOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบMIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าประสิทธิภาพ E₁/E₂ เท่ากับ 82.67/ 85.23 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

 2. นักเรียนมีการคิดวิเคราะห์ เมื่อเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบMIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนมีความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ เมื่อเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบMIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เมื่อเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยการเรียนแบบ MIA (Murdorch) ร่วมกับแผนผังความคิด (Mind Map) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. นักเรียนที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่แตกต่างกัน มีการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ปรากฏผลดังนี้

5.1 นักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง มีการคิดวิเคราะห์สูงกว่านักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ปานกลาง และต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5.2 นักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง มีความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจสูงกว่านักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ปานกลาง และ ต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5.3 นักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ปานกลาง และต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
 

The purposes of this study were to 1) to develop the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping to contain the efficiency of 80/80, 2) to compare the students’ analytical thinking abilities, 3) to compare the students’ abilities of reading for comprehension, 4) to compare the students’ learning achievements, 5) to compare the analytical thinking abilities, reading for comprehension, and learning achievements of the students whose achievement motivations differed (high, moderate, low) after they were taught through the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping. The subjects were 22 Prathom Suksa 6 students who were studying in the second semester of 2017 academic year at Bankhamka School under the jurisdiction of Sakon Nakhon Primary Educational Area 2. They were obtained by cluster random sampling. The instruments consisted of the following: 1) the packages to practice reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping, 2) the test to measure the students’ analytical thinking, 3) the test evaluate the students’ reading for comprehension, and 4) learning achievement test. The statistics employed for data analysis were mean, standard deviation, effectiveness index (E1/E2), t-teat (Dependent Samples), One-way MANCOVA, and One-way ANCOVA.

The study revealed these results:

1. The packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping for Prathom Suksa 6 Students had their efficiency of 82.67/85.23 which was higher than the set criteria of 80/80.

2. After the students had learnt through the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping, their analytical thinking was significantly higher than that of before at .05 statistical level.

3. After the students had learnt through the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping, their reading for comprehension abilities were significantly higher than those of before at .05 statistical level.

4. After the students had learnt through the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping, their learning achievement was significantly higher than that of before at .05 statistical level.

5. After they were taught through the packages to practice English reading skills using MIA (Murdoch) and Mind Mapping, the students whose achievement motivations differed (high, moderate, low) significantly had different analytical thinking, reading for comprehension abilities, and learning achievement at .05 statistical levels.

5.1 The students whose achievement motivations were high significantly had higher analytical thinking than those whose achievement motivations were moderate and low at .05 statistical levels.

5.2 The students whose achievement motivations were high significantly had higher reading for comprehension abilities than those whose achievement motivations were moderate and low at .05 statistical levels.

5.3 The students whose achievement motivations were high significantly had higher learning achievements than those whose achievement motivations were moderate and low at .05 statistical levels.