การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา สภาพ ปัญหา และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน  ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริหารโรงเรียน  ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ปีการศึกษา 2559 จำนวน 140 คน ได้มาโดยใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้นแบบไม่ใช้สัดส่วน (Non-proportional Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราประเมินค่า 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 แบบสอบถามสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.991  ด้านที่ 2 แบบสอบถามปัญหาการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.995 และด้านที่ 3 แบบสอบถามประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.990 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์  t – test, F – test (One - Way ANOVA)

ผลการวิจัย  พบว่า

1.     ระดับสภาพ ปัญหา และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมาก

2.  สภาพและประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยครูผู้สอนมีระดับความคิดเห็นมากกว่าผู้บริหารโรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษา ส่วนปัญหาการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนไม่มีความแตกต่างกัน

3.  สภาพและประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษา เพศชาย เพศหญิงโดยรวมและรายด้าน ทุกด้านไม่มีความแตกต่างกัน  ส่วนปัญหาการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การวิจัยครั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางยกระดับการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนทั้ง 9 ด้านไว้ด้วย

This research aimed on states, problems and effectiveness of the school academic affairs management (SAAM) under the Sakon Nakhon Provincial Administrative Organization in 2016 semester. This research used Non-proportinal Stratifired Random Sampling Method with the number of 140 opinions of school administrators, teachers and members of school board. The method used the questionnaires for collect data with three points analyzing, the first point are the states of the SAAM with reliability of 0.991, the second point are the problems of the SAAM with reliability of 0.995 and the last point is the effectiveness of the SAAM with reliability of 0.990. For the hypothesis investigation used t-test, F-test (One-Way ANOVA) with percentage, mean and standard deviation from statistical technique.

The research found as:

1. The level of states, problems and effectiveness of the SAAM under the Sakon Nakhon Provincial Administrative Organization, as a whole, was at the high.

2. The states,problems and effectiveness of the SAAM in this research, There were significantly difference with statistic values in the level of 0.01 which the group of teachers prefer the group of the members of school board while the state of the SAAM has no difference.

3. Results of the analyzing with sex (man, woman) from the sampling data resource in the path of summary and each of points, has no differences while the problem of the SAAM were significantly difference with statistic values in the level of 0.05.

4. This research proposes the nine topics to apply with the SAAM for school upgrading.