การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของคู่มือการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษที่สร้างและพัฒนาขึ้น  2) เปรียบเทียบความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยคู่มือการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน  3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยคู่มือการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยคู่มือการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน และ  5) เปรียบเทียบความพึงพอใจในการเรียน พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่มีความสามารถทางการเรียนต่างกัน (เก่ง ปานกลาง อ่อน) ที่ได้รับการสอนด้วยคู่มือการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านนาหนองหวาย สังกัดสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษานครพนมเขต 2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 22 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)  คู่มือการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษ  2) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียน  3) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และ 4) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่  ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) สถิติทดสอบค่าที  (t – test for Dependent  Samples) การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณร่วมทางเดียว  (One – way MANCOVA) การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมแบบทางเดียว (One–way ANCOVA)  และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way ANOVA)

ผลการวิจัยพบว่า  1) ประสิทธิผลของคู่มือการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือบูรณาการกับโครงงานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าร้อยละ 55 มากกว่าเกณฑ์ 2) ความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05  3) พฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05  4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05 และ 5) ความพึงพอใจในการเรียน พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่มีความสามารถทางการเรียนต่างกัน มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ   .05

The purposes of this study were to 1) investigate the efficiency of the manual for cooperative learning  intergrated with English project, 2) compare the satisfaction in English for Pratom Suksa 5 who were taught by the manual for cooperative learning intergrated with English project between before and after learning, 3) compare the working group’ s behaviors in English for Pratom Suksa 5 who were taught by the manual for cooperative learning  intergrated with English project before and after learning, 4) compare the learning achievements for Pratom Suksa 5 who were taught by the manual for cooperative learning intergrated with English project between before and after learning, and 5) compare the satisfaction ,working  group’s behaviors and learning achievements of the Pratom Suksa 5 students with high, moderate and low levels of learning ability who were taught by Learning Activity Manual for Cooperative Learning Intergrated with English Project. The samples consisted of 22 students  of Pratom Suksa 5 at Bannanongwai School under the Office of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area 2 in the first semester of 2013  academic year, selected by purposive sampling technique. The research instruments were composed of : 1) the manual for cooperative learning intergrated with English project, 2) a satisfaction test toward learning, 3) an observation from of working group behavior, and 4) a test of English achievements. The statistics  employed to analyze data comprised mean, standard deviation, Effectiveness Index, t – test for Dependent  Samples, One-way MANCOVA ,One way ANCOVA and One-way  ANOVA.

The findings of this study were as follows:  1.The efficiency of of the manual for cooperative learning intergrated with English project for Pratom Suksa 5 students by the tests from the end of each lesson plan gained a high quality as set. E.I. = 0.55 which was higher than the set criterion, 2. The students satisfaction for Pratom Suksa 5 who were taught by the  manual for cooperative learning was intergrated with English project after learning higher than those before learning at the .05 level of significance, 3. The students working group behaviors for Pratom Suksa 5 who were taught by the manual for cooperative learning  intergrated with English project after learning were higher than those before learning at the .05 level of significance, 4. The students’ learning achievements for Pratom Suksa 5 who were taught by the manual for cooperative learning intergrated with English project after learning were higher than those before learning at the .05 level of significance, and  5. The researcher found that the satisfaction, working group behaviors and learning achievements of students who obtained different levels of learning ability were significantly different at the .05 level.