การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  1) พัฒนาหลักสูตรและหาประสิทธิภาพหลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1  2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษาที่พัฒนาขึ้นตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 และ 3) ศึกษาเจตคติต่อการเรียนหลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 27 คน ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) แบบวัดเจตคติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีชนิด 1 กลุ่มไม่อิสระต่อกัน (Dependent Samples t-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. หลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 มีประสิทธิภาพ 81.27/81.36 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้หลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. เจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หลักสูตรรายวิชา (เพิ่มเติม) เพศศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77

The purposes of this research were: 1) to develop a curriculum find efficiency of that curriculum on Sex Education for Mathayom Suksa 1 in the Health and Physical Education Learning Substance Group, Ban Muang Khai Pracharat Songkraw School Office of Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 1, 2) to compare learning achievement  between before and  after learning using the additional curriculum on Sex Education based on the efficiency developed  terion of 80/80 and 3) to examine attitude towards learning in the additional curriculum on ‘Sex Education.’ The sample Used was 27 for Mathayom Suksa 1 students of Ban Muang Khai Pracharat Songkraw School in the 2nd semester of academic year 2014 who were selected by purposive Sampling. The instruments used were 1) a test of learning achievement, 2) a measurement form for attitude, Statistics used were percentage mean, standard deviation, and t- tests of dependent samples.

The findings were as follows :

1. The additional curriculum on ‘Sex Education’ for Mathayom Suksa 1 students in the Health and Physical Education Learning Substance Group, Ban Muang Khai Pracharat Songkraw School under Office of Sakon Nakhon  Primary Educational Service Area 1 had efficiency of 81.27 / 81.36 which was higher than the set criterion. 

2. Learning achievement of students after learning using the additional curriculum on ‘Sex Education’ for Mathayom Suksa 1 was significantly curriculum on on ‘Sex Education’ for Mathayom Suksa 1   than that before learning at the .01 level. 

3. Attitude of students towards learning through the use the additional course curriculum on ‘Sex Education’ for Mathayom Suksa 1 was at the highest level with a mean score of 4.77.