สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้และทดสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การดำเนินการวิจัย มี 3 ระยะประกอบด้วยระยะที่ 1 การกำหนดองค์ประกอบหลัก องค์ประกอบย่อยและตัวบ่งชี้ โดยศึกษาเอกสารและงานวิจัย การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ระยะที่ 2 การพัฒนาตัวบ่งชี้โดยสอบถามผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 21 คน ใช้เทคนิคเดลฟายแบบปรับปรุง 3 รอบและระยะที่ 3 การทดสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 630 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามชนิดประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าสถิติพื้นฐานและวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันด้วยโปรแกรมลิสเรล
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 6 องค์ประกอบหลัก 21 องค์ประกอบย่อย 109 ตัวบ่งชี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการ แนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ด้านการกำหนดทิศทางองค์การมี 4 องค์ประกอบย่อย 25 ตัวบ่งชี้ ด้านกระบวนการคิดในระดับสูงมี 3 องค์ประกอบย่อย16 ตัวบ่งชี้ ด้านการกำหนดกลยุทธ์มี 2 องค์ประกอบย่อย 11 ตัวบ่งชี้ ด้านการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติมี 5 องค์ประกอบย่อย 30 ตัวบ่งชี้ ด้านการควบคุมและประเมินผลกลยุทธ์มี 3 องค์ประกอบย่อย 14 ตัวบ่งชี้ และด้านประสิทธิผลของโรงเรียนมี 4 องค์ประกอบย่อย 13 ตัวบ่งชี้
2. โมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ (chi-square = 80.83 df =83ค่า P = 0.54689 ค่า GFI = 0.99 ค่า AGFI = 0.96ค่า RMSEA = 0.000 ค่าCN = 866.87)
The objectives of this study were to develop the indicators and examine the goodness-of-fit of the structural model of strategic leadership of school directors affecting the effectiveness of opportunity expansion schools under the Office of Basic Education Commission in the Northeast of Thailand with the empirical data. The study was divided into 3 phases. The first phase was the determination of main components, sub-components and indicators by studying relevant documents and researches as well as interviewing 7 experts. The second phase was the indicator development by consulting 21 experts with the application of modified Delphi technique for 3 rounds. The third phase was the examination of goodness-of-fit between the developed structural model and the empirical data by consulting 630 opportunity expansion school directors, selected through multi-stage random sampling. The tool in the data collection was the 5-level rating scale questionnaire. Data was then analyzed to determine basic statistics value, while LISREL program was employed to conduct confirmatory factor analysis in this study.
The results of the study could be concluded as follows:
1. The strategic leadership indicators of school directors affecting the effectiveness of opportunity expansion schools under the Office of Basic Education Commission in the Northeast of Thailand comprised 6 main components, 21 sub-components and 109 indicators, which were in accordance with relevant principles, concepts and theories, and could be classified as follows: 4 sub-components and 25 indicators on organization direction setting; 3 sub-components and 16 indicators on higher-order thinking process; 2 sub-components and 11 indicators on strategy formulation; 5 sub-components and 30 indicators on strategic implementation; 3 sub-components and 14 indicators on strategic control and assessment and 4 sub-components and 13 indicators on school effectiveness.
2. The structural model of strategic leadership indicators of school directors affecting the effectiveness of opportunity expansion schools under the Office of Basic Education Commission in the Northeast of Thailand had a goodness-of-fit with the empirical data as set in the hypothesis (chi-square = 80.83; df =83; P = 0.54689; GFI = 0.99; AGFI = 0.96; RMSEA = 0.000; CN = 866.87).
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | หน้าปก | 88.59 KB |
2 | ประกาศคุณูปการ | 73.92 KB |
3 | บทคัดย่อ | 202.94 KB |
4 | สารบัญ | 130.98 KB |
5 | บทที่ 1 | 192.51 KB |
6 | บทที่ 2 | 1,120.81 KB |
7 | บทที่ 3 | 259.65 KB |
8 | บทที่ 4 | 2,016.76 KB |
9 | บทที่ 5 | 301.65 KB |
10 | บรรณานุกรม | 215.96 KB |
11 | ภาคผนวก ก | 161.79 KB |
12 | ภาคผนวก ข | 83.90 KB |
13 | ภาคผนวก ค | 92.04 KB |
14 | ภาคผนวก ง | 104.50 KB |
15 | ภาคผนวก จ | 139.57 KB |
16 | ภาคผนวก ฉ | 381.04 KB |
17 | ภาคผนวก ช | 249.04 KB |
18 | ภาคผนวก ซ | 306.41 KB |
19 | ภาคผนวก ฌ | 78.90 KB |