การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบผสมผสาน รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 2) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบผสมผสาน วิธีดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย 1) สร้างและพัฒนาเครื่องมือในงานวิจัย และ 2) ทดลองใช้กิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครพนมวิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 2 ห้องเรียน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 40 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการรู้สารสนเทศ 3) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (Dependent samples t-test และ Independent samples t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมแบบทางเดียว (One-way ANCOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกัน

3. การรู้สารสนเทศของนักเรียนกลุ่มทดลองหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การรู้สารสนเทศหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

6. นักเรียนกลุ่มทดลองมีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = 0.48)

The purposes of this research were: 1) to develop the instructional activities based on blended learning on the Information and communication technology subject for Mathayomsuksa 5; and 2) to examine the effects after the intervention. The research process involved two stages as follows: 1) Creating and developing research instruments, and 2) Implementing the developed instructional activities based on blended learning. The samples, obtained through cluster random sampling, were Mathayomsuksa 5 students from two classes studying in the second semester of 2017 academic year at Nakhon Phanom Wittayakhom School. The samples were then divided into experimental and control group, each of which contained 40 students. The research instruments were: 1) an achievement test, 2) an assessment form for abilities in information literacy, 3) an assessment form for performance skills, 4) a satisfaction form toward learning through the developed activities. The statistics included mean, percentage, standard deviation, t-tests (Dependent samples and Independent samples) and analysis of covariance (One-way ANCOVA).

The findings were as follows:

1. The post-test student learning achievement scores of experimental group was statistically higher than those of before at the .05 level of significance.

2. The student learning achievement of the experimental group and the control group showed no difference.

3. The student information literacy of the experimental group after the intervention was statistically higher than that of before at the .05 level of significance.

4. The student information literacy of the experimental group was statistically higher than that of the control group at the .05 level of significance.

5. The student performance skills of the experimental group were statistically higher than that of the control group at the .05 level of significance.

6. The satisfaction level of the experimental group toward learning through the developed activities was at the highest level (= 4.51, S.D. = 0.48).