การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบ การสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะทางสังคมของนักเรียน ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบ การสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ  STAD ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน  4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบแบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD ระหว่างก่อนและหลังเรียน 5) เปรียบเทียบทักษะทางสังคม  พฤติกรรมการกล้าแสดงออก  และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่มีความฉลาดทางอารมณ์แตกต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) เมื่อเรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4  ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 27 จังหวัดหนองคาย สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ  ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 41 คนโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับ การเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD 2) แบบสอบถามทักษะทางสังคม 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการกล้าแสดงออก 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t - test) ความแปรปรวนพหุร่วมทางเดียว (One – Way MANOVA) และความแปรปรวนทางเดียว (One – Way ANOVA)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.63/84.75 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80

2. ทักษะทางสังคมของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. พฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

5. ทักษะทางสังคม พฤติกรรมการกล้าแสดงออก และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่มีความฉลาดทางอารมณ์แตกต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) เมื่อเรียนด้วยเอกสารประกอบการสอนรายวิชาพระพุทธศาสนาร่วมกับการเรียนรู้แบบ LT และการเรียนรู้แบบ STAD มีความแตกต่างกัน

The purposes of this study were 1) to find out the effectiveness of Buddhism Subject’s handouts which employed Lt and STAD learning strategies to teach Mathayom Suksa 1 students based on the standard criteria of 80/80, 2) to compare the students’ social skills possessed before and after learning through Buddhism Subject’s handouts which employed LT and STAD learning strategies, 3) to compare the students’ assertive behaviors obtained before and after learning through Buddhism Subject’s handouts which employed LT and STAD learning strategies, 4) to compare the students’ learning achievements gained before and after learning through Buddhism Subject’s handouts which employed LT and STAD learning strategies, 5) to Compare the social skills, assertive behaviors, and learning achievements of the students whose emotional intelligences differed (low, moderate and high) after they had learnt through Buddhism Subject’s handouts which employed LT and STAD learning strategies. The subjects were 41 Mathayom Suksa 1/4 students who were studying in the second semester of 2017 academic year at Rajaprachanukraw 27 School, Nong Khai Provice. They were obtained by cluster random sampling. The instruments used included 1) Buddhism Subject’s handouts which employed LT and STAD learning strategies, 2) a questionnaire to explore the students’ social skills, 3) a from to observe and record the students’ assertive behaviors, 4) a test to measure the students’ learning achievements, and 5) the test to assess the students’ emotional intelligence. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, t – test, One way MANOVA and One – way ANOVA.

The study revealed the following results:

1. The handouts of Buddhism Subject for Mathayom Suksa 1 students which employed LT and STAD learning strategies had their effectiveness of 84.62/84.75 which was higher than the set standard of 80/80.

2. After Mathayom Suksa 1 students had learnt through the handouts of Buddhism Subject which employed LT and STAD learning strategies, their social skills were significantly higher those of before at .01 statistical level.

3. After Mathayom Suksa 1 students had learnt through the handouts of Buddhism Subject which employed LT and STAD learning strategies, their assertive behaviors were significantly higher than those of before at .01 statistical level.

4. After Mathayom Suksa 1 students had learnt through the handouts of Buddhism Subject which employed LT and STAD learning strategies, their learning achievements were significantly higher than those of at .01 statistical level.

5. After learning through the handouts of Buddhism Subject which employed LT and STAD learning strategies, the social skills, assertive behaviors, and learning achievements of the students whose emotional intelligences differed (low, moderate and high) were also varied.