สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนากลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2) ตรวจสอบความเหมาะสมในการนำไปใช้ของกลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 3) พัฒนาคู่มือการใช้กลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้วิธีวิจัยแบบผสมทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ การวิจัยแบ่งออก เป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัยดำเนินการใน 3 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน และขั้นที่ 3 การศึกษาพหุกรณีโรงเรียนต้นแบบ จำนวน 3 โรงเรียน ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนากลยุทธ์ ดำเนินการใน 2 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 การสร้างกลยุทธ์ โดยการสังเคราะห์ข้อมูลจากระยะที่ 1 ขั้นที่ 2 การพัฒนากลยุทธ์โดยใช้เทคนิคเดลฟายแบบปรับปรุง (Modified Delphi Technique) จำนวน 3 รอบ สอบถามผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 21 คน ระยะที่ 3 การตรวจสอบความเหมาะสมในการนำไปใช้ของกลยุทธ์ โดยการสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 630 คน ระยะที่ 4 การพัฒนาคู่มือการใช้กลยุทธ์ โดยร่างคู่มือการใช้กลยุทธ์ แล้วเสนอผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อประเมินความถูกต้องด้านเนื้อหาและความเหมาะสมในการนำไปใช้ และแก้ไขปรับปรุงคู่มือการใช้กลยุทธ์ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. กลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มี 6 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 การจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนาบุคลากร กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนานักเรียน กลยุทธ์ที่ 4 การพัฒนาเครื่องมือ กลยุทธ์ที่ 5 การพัฒนาสภาพแวดล้อม และกลยุทธ์ที่ 6 การบริหารจัดการ
2. กลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมในการนำไปใช้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด สอดคล้องกับสมมติฐานของการวิจัย
3. คู่มือการใช้กลยุทธ์การจัดการศึกษาแบบเรียนรวมอย่างมีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมในการนำไปใช้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
The objectives of this study were to 1) develop Strategies for Effective Inclusive Education for secondary schools under the office of Basic Educational Commission 2) verify the appropriateness of the developed strategy and 3) develop a guideline on the implementation of the developed strategy. A mixed-methods between qualitative and quantitative research was employed in this study, and the study was divided into 4 phases. Phase 1 was the research framework determination, which was conducted in 3 parts. The first part was the study of relevant documents and researches. The second part was an interview with 9 professionals, while the third part was the multi-case studies of 3 model schools. Phase 2 was the strategy creation and development, which was conducted in 3 parts. The first part was creation strategies by synthesis the data from phase 1. The second part was development the strategies by application of Modified Delphi Technique for 3 rounds and an inquiry with 21 experts. Phase 3 was the appropriateness verification in the strategy implementation by conducting an opinion survey from 630 stakeholders. Phase 4 was the development of the guideline on strategy implementation, which was presented to 5 experts for appropriateness and content verification for application and guideline improvement.
The findings were as follows:
1. The Strategies for Effective Inclusive Education comprised 6 strategies. Strategy 1 was learning and teaching, strategy 2 was teacher development. Strategy 3 was student development, strategy 4 was tools development, strategy 5 was environment development and strategy 6 was Management.
2. The overall appropriateness for application of the developed strategy was at the highest level.
3. The content of the guideline on the implementation of developed strategy consisted of explanation, objectives, benefits, backgrounds, the developed Strategies for Effective Inclusive Education, the role of stakeholders involved. It was found to be accurate with the overall appropriateness for application at the highest level.
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | หน้าปก | 113.88 KB |
2 | ใบรับรองวิทยานิพนธ์ | 149.31 KB |
3 | ประกาศคุณูปการ | 63.21 KB |
4 | บทคัดย่อ | 123.41 KB |
5 | สารบัญ | 219.29 KB |
6 | บทที่ 1 | 478.21 KB |
7 | บทที่ 2 | 2,324.13 KB |
8 | บทที่ 3 | 649.62 KB |
9 | บทที่ 4 | 1,802.80 KB |
10 | บทที่ 5 | 333.22 KB |
11 | บรรณานุกรม | 324.05 KB |
12 | ภาคผนวก ก | 212.01 KB |
13 | ภาคผนวก ข | 217.23 KB |
14 | ภาคผนวก ค | 2,439.08 KB |
15 | ภาคผนวก ง | 623.47 KB |
16 | ภาคผนวก จ | 530.92 KB |
17 | ภาคผนวก ฉ | 331.77 KB |
18 | ภาคผนวก ช | 816.63 KB |
19 | ประวัติย่อของผู้วิจัย | 267.72 KB |