การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์ หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางพัฒนาปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ปีการศึกษา 2558  จำนวน 351 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 93 คน และครู จำนวน 258 คน จาก 93 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson's Product Moment Correlation) การทดสอบค่าที (t - test ชนิด Independent Samples) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - Way ANOVA) และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) 

ผลการวิจัยพบว่า

1. ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก

2. การดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก

3. ผู้บริหารและครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกัน

4. ผู้บริหารและครูผู้สอน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ผู้บริหารและครูผู้สอนที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นต่อปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

6. ผู้บริหารและครูผู้สอน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

7. ปัจจัยการบริหารกับการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียน โดยรวมมีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 

8. ตัวแปรปัจจัยการบริหาร จำนวน 7 ด้าน พบว่ามี จำนวน  4 ด้าน ได้แก่ ด้านการควบคุม ประเมินผลและการกระตุ้นส่งเสริม ด้านภาวะผู้นำ ด้านเจตคติของผู้ปฏิบัติงานตามนโยบาย และด้านการติดต่อสื่อสารที่สามารถพยากรณ์ การดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนในโรงเรียนโดยรวม ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีอำนาจพยากรณ์ร้อยละ 52.90 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์ ± .387

9. ปัจจัยการบริหาร ที่ควรได้รับการส่งเสริมเพื่อหาแนวทางพัฒนา จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการควบคุม ประเมินผลและการกระตุ้นส่งเสริม ด้านภาวะผู้นำ ด้านเจตคติของผู้ปฏิบัติงานตามนโยบาย และด้านการติดต่อสื่อสาร โดยได้จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 10 ท่าน 

The purpose  of this study were to compare and find out the relationship, predicting power and find out appropriate guidelines to develop the administrative factors affecting the implementation to the student Literacy Policy in Schools under the Office of Nakhonphanom Primary Educational Service Area 2. The samples were 351 people consisted of 93 administrators and 258 teachers. The instrument used for collecting data was a set of five - level rating scale questionnaires and Semi-Structured Interview. Statistics employed to analyze data were percentage, mean, standard deviation, Pearson's Product Moment Correlation, independent samples t- test, One - Way ANOVA and Stepwise Multiple Regression Analysis.

The findings of this study were as follows :

1. The administrative factors affecting the implementation to the student literacy policy in schools according to opinions of administrators and teachers was at a high level.

2. The implementation to the student Literacy policy in schools according to opinions of administrators and teachers was at a high level.

3. The administrators and teachers had opinion to the administrative factors affecting to the student literacy policy in schools were not different. 

4. The administrators and teachers had opinion the implementation to the student literacy policy in schools were different with the statistical significance .05 level.

5. The administrators and teachers that working in different school sizes had opinion to The administrative factors affecting the implementation to the student literacy policy in schools were different with the statistical significance .01 level

6. The administrators and teachers that working in different school sizes had opinion to the implementation to the student literacy policy in schools were different with the statistical significance .05 level.

7. The administrative factors and the implementation to the student literacy policy in schools had positive correlation with the statistical significance .01 level.

8. The variable of the administrative factors7 aspects found that 4 aspects which are the controlling of evaluation and encouragement, the leadership, the employee attitude of implementation to the literacy policy and the communications can be presented the implementation to the literacy policy with the statistical significance level .01. The prediction power was 52.90 and the standard error was   .387. 

9. The administrative factors should be encourage for finding the development for 4 aspects which are the controlling of evaluation and encouragement, the employee attitude of the implementation to the literacy policy and the communication using by 10 expert from interview.