การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์ และหาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางยกระดับภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้บริหาร และครูผู้สอนจำนวน 353 คน ปีการศึกษา 2559 โดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.953 และประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.910 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ t - test, F - test (One way ANOVA) ใช้ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน  (Pearson product-moment correlation) การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis)  

ผลการวิจัย พบว่า

1. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูผู้สอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

2. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูผู้สอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 จำแนกตาม สถานภาพโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำแนกตามวุฒิการศึกษาโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวม ไม่แตกต่างกัน และจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 มีความสัมพันธ์กันในทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .423)

4. ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนมีอำนาจพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 คือ ภาวะผู้นำวิชาการด้านการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจการเรียนรู้ และภาวะผู้นำวิชาการด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ มีอำนาจพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหางงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และภาวะผู้นำวิชาการด้านการพัฒนาคุณภาพครู มีอำนาจพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้เสนอแนวทางยกระดับภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 3 ใน 3 ด้าน คือ ภาวะผู้นำวิชาการด้านการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจการเรียนรู้ ภาวะผู้นำวิชาการด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้  ภาวะผู้นำวิชาการด้านการพัฒนาคุณภาพครู

The purposes of this research were to examine, compare, find out the predictive power and establish the guidelines to improve instructional leadership of school administrators affecting the effectiveness of academic administration in schools under the Office of Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 3. The samples, obtained through multi-stage random sampling, consisted of 353 administrators and teachers in the academic year 2016. The research instrument included a five point- rating scale questionnaire covering two aspects: instructional leadership of school administrators, with a reliability of 0.953. and the effectiveness of school academic administration, with a reliability of 0.910. Data were analyzed through percentage, mean, and standard deviation. The hypothesis testing used was t - test, F - test  (One way ANOVA), Pearson Product - Moment Correlation and Stepwise Multiple Regression Analysis.

The results were as follows:

1. The instructional leadership of school administrators affecting the effectiveness of academic administration in schools under the Office of Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 3 as whole was at a high level.

2. The instructional leadership of school administrators affecting the effectiveness of school academic administration as perceived by administrators and teachers, classified by status and education level as a whole was at a statistical significant difference of the .01 level, whereas there were no significant statistical difference in overall in the respondents’ perceptions when compared by school sizes. When considering work experience, there was a statistical significant difference at the .05 level in overall.

3. The instructional leadership of school administrators affecting the effectiveness of academic administration as perceived by school administrators and teachers had a positive relationship at a statistical significance level of .01 (r = .432)

4. The instructional leadership of school administrators had the predictive power toward the effectiveness of academic administration. The said instructional leadership in terms of target setting, vision, and learning mission; and creation of learning atmosphere was at a statistical significance of .01 level in overall. In addition, the quality teacher development was at a statistical significance of .05 level in overall.

5. The researcher proposed the guidelines for improving the instructional leadership of school administrators affecting the effectiveness of academic administration under the Office of Sakon Nakhon Primary Educational  Service Area 3. The proposed three aspects of instructional leadership were target setting, vision, and learning mission; creation of learning atmosphere; and quality teacher development.