การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา วิธีดำเนินการวิจัยมี 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 พัฒนารูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษา โดยการวิเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวกับภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา และระยะที่ 2 ตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน ในปีการศึกษา 2561   จำนวน 92 คน ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ระหว่าง 0.80-1.00 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.43-0.88 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานแผนกศึกษาธิการและกีฬานครไกสอนพมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มี 4 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะผู้นำทางวิชาการ 2) องค์ประกอบของภาวะผู้นำทางวิชาการ 3) กระบวนการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการ และ 4) ประสิทธิผลภาวะผู้นำทางวิชาการ

2. ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา พบว่า โดยรวมและรายด้านมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก

This research aimed to develop and verify the appropriateness of academic leadership model of primary school administrators. The research procedures comprised of 2 phases : Phase 1) development of an academic leadership model of primary school administrators using the analysis of concepts, theories and document and related studies on academic leadership of primary school administrators and Phase 2) verification of the developed model. The data were collected from 92 school administrators and teachers in academic year 2018. The sample was selected using simple random sampling method. The instrument used for data collection was a 5 level-rating scale questionnaire with content validity index between 0.80-1.00, discrimination index between 0.43-0.88 and reliability index at 0.98. The statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, and standard deviation.

The results found that:

1. An academic leadership model of primary school administrators under the Department of Education and Sports Office, Kaysonephamvihane City, Savannakhet Province, Lao PDR comprised 4 components: 1) factors in academic leadership; 2) the elements of academic leadership; 3) process of academic leadership development; and 4) effectiveness of academic leadership.

2. The results from the appropriateness verification of the academic leadership model for the primary school administrators revealed the overall and each aspect of appropriateness was at high level.