สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาระดับปัจจัยการบริหาร และประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสกลนคร เขต 23, เปรียบเทียบปัจจัยการบริหารและประสิทธิผลของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนจำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดของโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานหรือการดำรงตำแหน่ง, ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการบริหารและประสิทธิผลของโรงเรียน, หาอำนาจพยากรณ์ของปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน และหาแนวทางการพัฒนาปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน
กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนครเขต 23 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 330 คน จำแนกเป็นผู้บริหาร 130 คน ครูผู้สอน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน และประสิทธิผลของโรงเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบจำแนกทางเดียว F-test (One – Way ANOVA) ค่าความสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation)และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณทีละขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัจจัยการบริหารของโรงเรียน โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
2. ประสิทธิผลของโรงเรียน โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
3. ปัจจัยการบริหารของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ปัจจัยการบริหารของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนจำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5. ปัจจัยการบริหารของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานหรือการดำรงตำแหน่ง โดยรวมไม่แตกต่างกัน
6. ประสิทธิผลของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานหรือการดำรงตำแหน่งโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
7. ประสิทธิผลของโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนจำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
8. ปัจจัยทางการบริหารกับประสิทธิผลของโรงเรียนโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01และสัมพันธ์กันอยู่ในระดับมาก
9. ปัจจัยการบริหารของโรงเรียน จำนวน 6 ปัจจัย ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลของโรงเรียน ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ บรรยากาศ และวัฒนธรรมองค์การ (ปัจจัยที่ 8) งบประมาณและทรัพยากรเพื่อการบริหาร (ปัจจัยที่ 6) นโยบายสู่การปฏิบัติ (ปัจจัยที่ 1) บุคลากร (ปัจจัยที่ 5) กระบวนการบริหาร (ปัจจัยที่ 4) และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร (ปัจจัยที่ 7) สำหรับปัจจัยที่ไม่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลของโรงเรียน จำนวน 3 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 2 โครงสร้างขององค์การ ปัจจัยที่ 3 ภาวะผู้นำของผู้บริหาร ปัจจัยที่ 9 สภาพแวดล้อม ชุมชน ท้องถิ่น สามารถเขียนสมการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ในรูปคะแนนดิบ ได้ดังนี้
Y′= 0.061 + 0.308 X8 + 0.191 X6 + 0.159 X1 + 0.141 X5 + 0.110 X4 + 0.077 X7
และสามารถเขียนสมการวิเคราะห์การถดถอยในรูปคะแนนมาตรฐาน ได้ดังนี้
X′= 0.327 Z8+ 0.205 Z6 + 0.163 Z1 + 0.142 Z5 + 0.115 Z4 + 0.086 Z7
10. แนวทางพัฒนาปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน เสนอแนะไว้ 6 ปัจจัย ประกอบด้วย นโยบายสู่การปฏิบัติ (ปัจจัยที่ 1) กระบวนการบริหาร (ปัจจัยที่ 4) บุคลากร (ปัจจัยที่ 5) งบประมาณและทรัพยากรเพื่อการบริหาร (ปัจจัยที่ 6) เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร (ปัจจัยที่ 7) และบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์การ (ปัจจัยที่ 8)
The purposes of this research were to: examine the level of administrative factors and the effectiveness of schools under the Office of Secondary Educational Service Area 23; compare the administrative factors and school effectiveness as perceived by school administrators and teachers with different working position, school sizes and work or position experience; investigate the relationship between the administrative factors and school effectiveness; find out the predictive power of administrative factors affecting school effectiveness; and establish the guidelines for developing administrative factors affecting school effectiveness.
The sample consisted of a total of 330 participants including 130 school administrators and 200 teachers in the schools under the Office of Secondary Educational Service Area 23 in the 2016 academic year. The instrument for data collection was a set of questionnaires. The statistics used for data analysis were mean, standard deviation, F-test (One – Way ANOVA), Pearson's Product Moment Correlation, and Stepwise Multiple Regression Analysis.
The findings were as follows:
1. The school administrative factors, as a whole and each aspect were at a high level.
2. The school effectiveness, as a whole and each aspect were at a high level.
3. The school administrative factors as perceived by administrators and teachers, as a whole were different with a statistical significance at the .01 level.
4. The school administrative factors as perceived by administrators and teachers from different school sizes, as a whole were different at a statistical significance of .01 level.
5. The school administrative factors as perceived by administrators and teachers with different work or position experience, as a whole were not different.
6. The school effectiveness as perceived by administrators and teachers with different working position and work or position experience, as a whole and each aspect were not different.
7. The school effectiveness as perceived by administrators and teachers with different school sizes, as a whole was different at a statistical significance of .01 level.
8. Administrative factors and school effectiveness, as a whole had a high level of positive relationship at the statistical significance of .01 level.
9. The school administrative factors comprised six aspects which were able to predict school effectiveness at the statistical significance of .05 level. The said factors were: atmosphere and organizational culture (factor no. 8), budget and resources for administration (factor no. 6), personnel (factor no. 5), administrative process (factor no. 4), and information technology for administration (factor no. 7). The three factors that could not be able to predict the effectiveness of schools were: organization structure (factor no. 2), leadership of administrators (factor no. 3), environment, community and local (factor no. 9).
The equation could be summarized in raw scores as follows: Y′= 0.061 + 0.308 X8 + 0.191 X6 + 0.159 X1 + 0.141 X5 + 0.110 X4 + 0.077 X7 and the predictive equation in standardized scores was X′= 0.327 Z8+ 0.205 Z6 + 0.163 Z1 + 0.142 Z5 + 0.115 Z4 + 0.086 Z7
10. The guidelines for developing administrative factors affecting the school effectiveness involved six aspects: policy implementation (factor no. 1), administrative process (factor no. 4), personnel (factor no. 5), budget and resources for administration (factor no. 6), information technology for administration (factor no. 7), atmosphere and organizational culture (factor no. 8).
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | หน้าปก | 97.34 KB |
2 | ใบรับรองวิทยานิพนธ์ | 47.08 KB |
3 | ประกาศคุณูปการ | 41.37 KB |
4 | บทคัดย่อ | 113.50 KB |
5 | สารบัญ | 166.09 KB |
6 | บทที่ 1 | 197.52 KB |
7 | บทที่ 2 | 765.11 KB |
8 | บทที่ 3 | 211.61 KB |
9 | บทที่ 4 | 971.63 KB |
10 | บทที่ 5 | 249.57 KB |
11 | บรรณานุกรม | 138.82 KB |
12 | ภาคผนวก ก | 85.37 KB |
13 | ภาคผนวก ข | 3,349.16 KB |
14 | ภาคผนวก ค | 230.31 KB |
15 | ภาคผนวก ง | 269.43 KB |
16 | ภาคผนวก จ | 92.46 KB |
17 | ภาคผนวก ฉ | 132.39 KB |
18 | ภาคผนวก ช | 493.22 KB |
19 | ประวัติย่อของผู้วิจัย | 46.99 KB |