สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบเจตคติระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เปรียบเทียบความมั่นใจในตนเองระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 5) เปรียบเทียบความฉลาดทางอารมณ์กับความสามารถในการฟัง-พูด เจตคติ และความมั่นใจในตนเอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/7 ของโรงเรียนเชิงชุมราษฎร์นุกูล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 40 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยแบ่งประชากรออกเป็นห้องและสุ่มตัวอย่างประชากรเนื่องจากแต่ละห้องมีบริบทใกล้เคียงกัน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ ชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดอังกฤษ แบบวัดความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ แบบวัดเจตคติ แบบวัดความมั่นใจในตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ดัชนีประสิทธิผล, ค่าสัมประสิทธิ์ความผันแปร ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้ t-test (Dependent Samples), ANOVA, ANCOVA, MANCOVA
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.72 มีค่าสัมประสิทธิ์ความผันแปรเท่ากับ 0.08
2. ชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้นักเรียนมีความสามรถด้านการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้นักเรียนมีเจตคติ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้นักเรียนมีความมั่นใจในตนเอง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. ความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ เจตคติ และความมั่นใจในตนเองของนักเรียนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่างกัน (สูง ปานกลาง และต่ำ) หลังได้เรียนด้วยชุดการสอนทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษโดยใช้ Activity-Based Learning ร่วมกับ 2W3P และทฤษฎีการวางเงื่อนไขการกระทำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
The purposes of this study were 1) to develop the Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory, 2) to compare the students’ listening and speaking abilities possessed before and after their learning through the developed packages, 3) to compare the students’ attitudes possessed before and after their learning through the developed packages, 4) to compare the students’ self-confidence gained before and after their learning through the developed packages, and 5) to compare the students’ emotional intelligence, listening and speaking abilities, attitudes, and self-confidence. The samples consisted of 40 Prathom Suksa 6/7 students who were studying in the second semester of 2018 academic year at Choengchumrajnukul School under the jurisdiction of the Office of Primary Educational Service Area 1. They were obtained through cluster random sampling technique using the classrooms as the sampling unit as students in all classrooms had similar contexts. Analysis of the data was conducted both in terms of quantitative and qualitative respects. The instruments comprised the instructional packages of English listening and speaking skills, the test to measure the students’ listening and speaking abilities, a questionnaire to examine the students’ attitude, and the test to evaluate the students’ self-confidence. Statistics employed were mean, standard deviation, effectiveness index, coefficient of variance, t – test (Dependent Samples), ANOVA, ANCOVA, and MANCOVA.
The study revealed these results:
1. The Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory for Prathom Suksa 6 Students contained their effectiveness index of 0.72 and 0.08 coefficient of variation.
2. After the students had learnt through the developed Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory, their listening and speaking abilities were significantly higher than those of before at .05 statistical level.
3. After the students had learnt through the developed Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory, their attitude was significantly higher than that of before at .05 statistical level.
4. After the students had learnt through the developed Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory, their self-confidence was significantly higher than that of before at .05 statistical level.
5. After the students whose emotional intelligence differed had learnt through the developed Instructional Packages of English Listening and Speaking Skills by using Activity-based Learning, 2W3P and Operant Conditioning Theory, their listening and speaking abilities, attitudes and self-confidence were significantly higher than those of before at .05 statistical level.
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | หน้าปก | 84.76 KB |
2 | ใบรับรองวิทยานิพนธ์ | 374.53 KB |
3 | ประกาศคุณูปการ | 68.90 KB |
4 | บทคัดย่อ | 130.32 KB |
5 | สารบัญ | 177.50 KB |
6 | บทที่ 1 | 312.49 KB |
7 | บทที่ 2 | 1,281.73 KB |
8 | บทที่ 3 | 511.02 KB |
9 | บทที่ 4 | 503.47 KB |
10 | บทที่ 5 | 206.25 KB |
11 | บรรณานุกรม | 318.76 KB |
12 | ภาคผนวก ก | 425.14 KB |
13 | ภาคผนวก ข | 634.83 KB |
14 | ภาคผนวก ค | 433.29 KB |
15 | ประวัติย่อของผู้วิจัย | 80.35 KB |