สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและตรวจสอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 366 คน ประกอบด้วยผู้บริหาร จำนวน 67 คน ครูวิชาการ จำนวน 67 คน ครูผู้สอน จำนวน 232 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร ประกอบด้วย ขอบข่ายของการบริหารงานวิชาการ 8 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลการศึกษาการนิเทศการศึกษา การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและการวิจัยและการพัฒนา กระบวนการบริหารงานวิชาการตามวงจรคุณภาพ (PDCA) มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวางแผน (Plan) ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบัติตามแผน (Do) ขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบประเมินผล (Check) และขั้นตอนที่ 4 การปรับปรุง/นำไปใช้ (Action) ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนเอกชน มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านผู้บริหาร ด้านครูและบุคลากร ด้านสภาพทั่วไป/สภาพแวดล้อม และด้านชุมชน
2. ผลการตรวจสอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ กระบวนการบริหารงานวิชาการตามวงจรคุณภาพ ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ และขอบข่ายการบริหารงานวิชาการ
The objectives of this study were to develop and assess the academic affairs administration model for private schools under the Primary Educational Service Area Offices in Sakon Nakhon Province. The sample group consisted of 366 persons, namely 67 school directors, 67 academic teachers and 232 teachers. A 5-level rating scale questionnaire was a tool of this study. Statistics implemented in data analysis were percentage, mean and standard deviation.
The study found that :
1. The author's effective academic affairs administration model for private schools under the Primary Educational Service Area Offices in Sakon Nakhon Province comprised 8 scopes in academic affairs administration, namely school curriculum development, learning process development, instructional media, measurement and evaluation, educational supervision, learning resource development, internal quality assurance system and research and development. There were 4 steps of academic affairs administration process according to PDCA quality cycle, which were as follow: step 1 planning (Plan); step 2 implementation (Do); step 3 checking and assessment (Check) and step 4 Improvement and application (Action). The effectiveness of academic affairs administration in private schools consisted of 4 factors, namely directors, teachers and personnel, general conditions/environment and community.
2. From the assessment, the overall appropriateness and possibility of the author's effective academic affairs administration model for private schools under the Primary Educational Service Area Offices in Sakon Nakhon Province was at high level. Each scope also had appropriateness and possibility at high level and their importance could be prioritized from the highest to the lowest as follow: PDCA quality cycle academic affairs administration process, academic affairs administration effectiveness and scope of academic affairs administration.
ลำดับที่ | ดาวน์โหลดไฟล์ | ขนาดไฟล์ |
1 | หน้าปก | 82.30 KB |
2 | ใบรับรองวิทยานิพนธ์ | 437.78 KB |
3 | ประกาศคุณูปการ | 37.13 KB |
4 | บทคัดย่อ | 80.30 KB |
5 | สารบัญ | 97.34 KB |
6 | บทที่ 1 | 174.24 KB |
7 | บทที่ 2 | 1,468.89 KB |
8 | บทที่ 3 | 176.93 KB |
9 | บทที่ 4 | 382.04 KB |
10 | บทที่ 5 | 180.01 KB |
11 | บรรณานุกรม | 327.15 KB |
12 | ภาคผนวก ก | 76.96 KB |
13 | ภาคผนวก ข | 1,411.12 KB |
14 | ภาคผนวก ค | 182.06 KB |
15 | ภาคผนวก ง | 211.44 KB |
16 | ภาคผนวก จ | 198.99 KB |
17 | ภาคผนวก ฉ | 145.36 KB |
18 | ประวัติย่อของผู้วิจัย | 54.32 KB |