ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (E-Thesis) SNRU

สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ชื่อวิทยานิพนธ์
รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยทางการบริหารของผู้บริหารสตรีที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคะวันออกเฉียงเหนือ
A Causal Relationship Model of the Administrative Factors of Female Directors Affecting the Effectiveness of Schools under Primary Education Service Area Offices in the North-eastern Region of Thailand
ผู้จัดทำ
อังสนา เข็มใคร รหัส 56632233109 ระดับ ป.เอก ภาคพิเศษ
หลักสูตร
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) สาขาวิชา การบริหารและพัฒนาการศึกษา
ปี พ.ศ.
2560
ที่ปรึกษา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วาโร เพ็งสวัสดิ์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัลนิกา ฉลากบาง, รองศาสตราจารย์ ดร. ทนงศักดิ์ คุ้มไข่น้ำ
บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและตรวจสอบรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยทางการบริหารของผู้บริหารสตรีที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์  การวิจัยแบ่งเป็นสองระยะ คือ ระยะแรกเป็นการกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย โดยการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน และศึกษาโรงเรียนดีเด่น  3 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ระยะที่สองเป็นการตรวจสอบสมมติฐานการวิจัย   กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูหัวหน้าวิชาการ และครูหัวหน้ากลุ่มสาระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 464 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.26 ถึง 0.87 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) ใช้โปรแกรม LISREL 8.72 ในการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างรูปแบบ  เชิงสมมติฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยทางการบริหารของผู้บริหารสตรีที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง บุคลิกภาพด้านความมั่นคงทางอารมณ์ พลังอำนาจและแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์

2. รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าสถิติ ดังนี้ อิทธิพลของปัจจัย ทางการบริหารของผู้บริหารสตรีที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถจัดลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลของโรงเรียนมากที่สุด รองลงมาคือ พลังอำนาจ และภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง  ส่วนบุคลิกภาพด้านความมั่นคงทางอารมณ์  มีอิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลของโรงเรียนมากที่สุด รองลงมาคือภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีอิทธิพลรวมต่อประสิทธิผลของโรงเรียนมากที่สุด รองลงมาคือภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง พลังอำนาจ และ บุคลิกภาพด้านความมั่นคงทางอารมณ์  ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง บุคลิกภาพด้านความมั่นคงทางอารมณ์ พลังอำนาจ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ สามารถร่วมกันอธิบายประสิทธิผลของโรงเรียนได้ร้อยละ 66  

Abstract

This study aimed to develop and examine the developed causal relationship model of the administrative factors of female directors affecting the effectiveness of schools under Primary Education Service Area Offices in the North-eastern region of Thailand with the empirical data. The study was conducted in 2 phases. The first phase was the conceptual framework construction by a study of relevant documents and researches, an interview with 7 experts and a study of 3 distinctive schools. The tools used in data collection was a semi-structured questionnaire. Data was then analyzed by content analysis. The second phase was the hypothesis examination. The samples comprised school directors, head teachers of academic affairs and head teachers of subject groups under primary education service area offices in the North-eastern region of Thailand in the academic year B.E. 2558, totally 464, selected by multi-stage random sampling. Data collection was done with a 5-level rating scale questionnaire with discrimination power between 0.26 - 0.87 and reliability value at 0.98. Statistics in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation and Pearson's Product Moment Correlation Coefficient. LISREL 8.72 was employed in confirmatory factor analysis and the goodness-of-fit examination between the developed model and empirical data.

The findings were as follows.

1. The developed causal relationship model of the administrative factors of female directors affecting the effectiveness of schools under primary education service area offices in the North-eastern region of Thailand consisted of 4 components, which were transformational leadership, personality trait of emotional stability, power and achievement motivation.

2. The developed model had a goodness-of-fit with the empirical data with the statistics as follows:  Chi-square = 23.31, df = 65, p-value = 1.00, χ2/df = 0.36, RMSEA = 0.00, GFI = 1.00, AGFI = 0.98 and Largest Standardized Residual value at 1.88. The direct influence of the administrative factors of female directors affecting the effectiveness of schools under primary education service area offices in the North-eastern region of Thailand could be prioritized from the most to the least influential one as follows: achievement motivation, power and transformational leadership. The personality trait of emotional stability had the highest indirect influence on school effectiveness, followed by transformational leadership. Apart from this, achievement motivation had the highest overall influence on school effectiveness, followed by transformational leadership, power and personality trait of emotional stability. Transformational leadership, personality trait of emotional stability, power and achievement motivation could altogether explain school effectiveness at 66 percent.

คำสำคัญ
ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ, ปัจจัยทางการบริหาร, ผู้บริหารสตรี
Keywords
ไฟล์วิทยานิพนธ์
ลำดับที่ ดาวน์โหลดไฟล์ ขนาดไฟล์
1 หน้าปก 74.01 KB
2 ประกาศคุณูปการ 70.40 KB
3 บทคัดย่อ 219.95 KB
4 สารบัญ 187.84 KB
5 บทที่ 1 497.59 KB
6 บทที่ 2 1,908.53 KB
7 บทที่ 3 377.40 KB
8 บทที่ 4 1,338.82 KB
9 บทที่ 5 398.50 KB
10 บรรณานุกรม 429.88 KB
11 ภาคผนวก ก 167.89 KB
12 ภาคผนวก ข 851.41 KB
13 ภาคผนวก ค 639.21 KB
14 ภาคผนวก ง 4,600.77 KB
15 ภาคผนวก จ 263.24 KB
16 ภาคผนวก ฉ 438.19 KB
17 ภาคผนวก ช 1,256.31 KB
18 ประวัติย่อของผู้วิจัย 164.30 KB
วันที่นำเข้าข้อมูล
3 ธันวาคม 2560 - 08:53:37
View 1842 ครั้ง


^