การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างและความสัมพันธ์ของความโปร่งใสในการดำเนินงานกับประสิทธิผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาลตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เทศบาลตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยกำหนดขนาดของกลุ่มตามสูตรคำนวณของ Taro Yamane และใช้การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่าง 372 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเชื่อมั่น () ของแบบสอบถามทั้งฉบับมีค่าเท่ากับ .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน

ผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 63.40 มีอายุระหว่าง 26-60 ปี คิดเป็นร้อยละ 64.00 จบการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 82.80 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 51.10 อาศัยอยู่ในโซนที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 53.50 ความคิดเห็นของประชาชนต่อความโปร่งใสในการดำเนินงานของเทศบาลตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อประสิทธิผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาลตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร โดยรวมอยู่ในระดับมาก

ผลการทดสอบสมมติฐาน พบผลดังนี้  ประชาชนที่มีคุณลักษณะส่วนบุคคลด้านการศึกษาและอาชีพต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาลตำบลคำตากล้าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ยังพบว่าความโปร่งใสในการดำเนินงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับประสิทธิผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาลตำบลคำตากล้าอยู่ในระดับสูงมาก (r=.82**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 

The purpose of this study was to investigate the difference and relationship of transparency in operating and performance effectiveness according to the development strategy of Khamtakla Sub-district Municipality, Khamtakla district, Sakon Nakhon province. The sample used in this study was people of 18 years of age or above living in the Khamtakla Sub-district Municipality area, Khamtakla district, Sakon Nakhon province. A sample size was determined by calculation using Taro Yamane’s formula and 372 people were derived from selection by stratified random sampling. The instrument used was a 5-rating scale questionnaire whose entire reliability coefficient was .98. Statistics used in data analysis were percentage, mean, t-test, One-way ANOVA, F-test and Pearson’s product moment correlation coefficient. Findings of the study revealed that most of the respondents were female or 63.40%; were in the 26-60 age range or 64.00%; had an educational attainment below bachelor’s degree or 82.80%; had their occupation as a farmer or 51.10%; and lived in zone 1 or 53.50%. The overall people’s opinion on operational transparency of Khamtakla Sub-district Municipality, Khamtakla district, Sakon Nakhon province was at high level, whereas their overall opinion on performance effectiveness according to the development strategy of Khamtakla Sub-district Municipality, Khamtakla district, Sakon Nakhon province was at high level.

The hypotheses testing found the following:  People whose educational attainments and occupations were different had significantly different opinion on performance effectiveness according to the development strategy of Khamtakla Sub-district Municipality at the .05 level. In addition, it found that operational transparency had a highly and significantly positive relationship with performance effectiveness according to the development strategy of Khamtakla Sub-district Municipality at the .05 level (r= .82 **).